ทำเนียบขาวเตรียมพร้อมด้านการแพทย์รับปธน.ทรัมป์ กลับจากโรงพยาบาล

APTOPIX Virus Outbreak Trump

หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางกลับจากการรักษาอาการป่วยโควิด-19 ที่โรงพยาบาลแล้ว เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวได้จัดเตรียมความพร้อมให้ทีมแพทย์ทำการดูแลรักษาต่อ แม้จะมีข้อจำกัดด้านเครื่องมือและเวชภัณฑ์ก็ตาม

รายงานข่าวแจ้งว่า ทีมบุคลากรดูแลปธน.ทรัมป์ ที่ทำเนียบขาวในช่วงนี้จะนำทีมโดยแพทย์ที่ทำการรักษาผู้นำประเทศนับตั้งแต่พบการติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และโดยทีมดังกล่าวจะประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ราว 30 คน ซึ่งจะประจำตำแหน่งเฝ้าดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

ในส่วนของห้องปฏิบัติการนั้น เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวได้จัดห้องตรวจโรคไว้ที่ชั้นล่างของอาคารที่พักทำเนียบขาว รวมทั้งห้องทำงานหลายห้องสำหรับบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ในอาคารไอเซนฮาวเวอร์ ที่อยู่ติดกัน

ทั้งนี้ ทีมแพทย์ชุดดังกล่าวมีหน้าที่ดูแลและให้การรักษาปธน.สหรัฐฯ และสมาชิกใกล้ชิดในครอบครัว รองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ และเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว และหากมีความจำเป็นจริงๆ ทีมแพทย์สามารถดูแลบุคคลสำคัญจากต่างประเทศ และนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมทำเนียบขาวด้วย โดยจะเน้นการดูแลขั้นพื้นฐาน เช่น การตรวจสภาพร่างกาย การจ่ายยาแก้ปวด แม้กระทั่งการรักษาแบบฉุกเฉิน และการประคองอาการเพื่อนำส่งต่อไปยังโรงพยาบาลด้วย

นอกจากนั้น ทำเนียบขาวยังจะคงเดินหน้าทำการทดสอบการติดเชื้อแบบเร่งด่วนสำหรับผู้สื่อข่าวที่เข้ามารายงานข่าวในพื้นที่ต่อไป

Trump Virus Outbreak

ก่อนที่ ปธน.ทรัมป์ จะเดินทางออกจากโรงพยาบาลวอลเตอร์ รีด เมื่อวันจันทร์ นายแพทย์ฌอน คอนลีย์ แพทย์ประจำทำเนียบขาว แสดงความมั่นใจว่า ทีมแพทย์ผู้ทำการดูแลรักษาได้ตรวจอาการผู้นำสหรัฐฯ อย่างละเอียดตลอดเวลาที่พักรักษาอยู่ และไม่คิดว่าจะพลาดรายละเอียดใดๆ

สำหรับรายละเอียดการรักษาอาการป่วยโควิด-19 ของปธน.ทรัมป์ ที่โรงพยาบาลนั้น รายงานข่าวระบุว่า มีการใช้การบำบัดด้วยแอนตี้บอดี้ ซึ่งเริ่มต้นหลังเริ่มการรักษาในวันศุกร์ที่แล้ว ด้วยจุดประสงค์เพื่อป้องกันโคโรนาไวรัสเข้าสู่เซลล์ในร่างกาย โดยเป็นค็อกเทลแอนตี้บอดี้ ที่ผลิตโดยบริษัทยา เรเจเนรอน (Regeneron) ซึ่งสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA ยังไม่ได้อนุมัติ แต่ทางบริษัทส่งมอบให้ใช้รักษาผู้นำสหรัฐฯ ภายใต้เงื่อนไขพิเศษ

(FILES) In this file photo one vial of the drug Remdesivir is viewed during a press conference about the start of a study with the Ebola drug Remdesivir in particularly severely ill patients at the University Hospital Eppendorf (UKE) in Hamburg, northern

ยาอีกตัวที่ใช้คือ เรมเดสซีเวียร์ (Remdesivir) ของบริษัทยา กิลเลียด (Gilead) ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสที่แพทย์จ่ายให้ปธน.ทรัมป์ เมื่อวันเสาร์ แม้ปกติ แพทย์จะไม่ใช้ยาตัวนี้กับผู้ป่วยที่อาการไม่อยู่ในขั้นหนักรุนแรง แต่ถูกนำมาใช้หลังระดับออกซิเจนของผู้นำสหรัฐฯ ตกลงหนัก

นอกจากนั้น ยังมียา เด็กซาเม็ธธาโซน (Dexamethasone) ที่แพทย์สั่งจ่ายที่โรงพยาบาล ซึ่ง ราเจช กานธี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อจาก โรงพยาบาลกลางแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts General Hostpial) และวิทยาลัยแพทย์ฮาร์วาร์ด กล่าวว่า เป็นสัญญาณชี้ว่า อาการของปธน.ทรัมป์ ต้องทรุดหนักเป็นบางช่วง เพราะยาตัวนี้ใช้ไม่ได้กับผู้ป่วยที่ไม่ได้ใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ โดยยานี้มักเอาไว้ใช้อาการข้างเคียงจากการที่ร่างกายพยายามต่อสู้กับไวรัส เช่น อาการอักเสบหรือแม้กระทั่งการทำงานของปอดที่ลดลง

ยาตัวที่ 4 ที่ใช้รักษาปธน.ทรัมป์ ที่โรงพยาบาลวอลเตอร์ รีด คือ ฟาโมทิดีน (Famotidine) ซึ่งเป็นยาลดกรดตัวหนึ่งที่หาซื้อได้ตามร้านขายยา โดยที่ไม่มีรายงานว่าทำไมแพทย์ต้องจ่ายยาตัวนี้ให้ผู้นำสหรัฐฯ