ส่องประวัติ 3 สตรีตัวเก็ง ที่อาจถูกเสนอให้รับตำแหน่งตุลาการศาลสูง

FILE - U.S. Supreme Court Justice Ruth Bader Ginsburg speaks at the University of California at Berkeley, in Berkeley, California, Oct. 21, 2019.

Your browser doesn’t support HTML5

Scotus Vacancy


การเสียชีวิตของผู้พิพากษาศาลสูง รูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก เมื่อคืนวันศุกร์ นำมาซึ่งเสียงสะท้อนถึงการสูญเสียนักต่อสู้เพื่อสิทธิสตรี และการคาดเดาถึงอนาคตของศาลสูงที่จะต้องมีผู้มารับหน้าที่แทน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวชื่นชมผู้พิพากษากินส์เบิร์ก ว่าเป็นบุคคลที่น่าทึ่งผู้มีชีวิตอันน่าทึ่ง และเขาเสียใจต่อการจากไปของเธอ

ขณะที่โจ ไบเดน แห่งพรรคเดโมเเครต ผู้แข่งขันชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีจากโดนัลด์ ทรัมป์ในการเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้กล่าวว่าตุลาการกินส์เบิร์ก ทำงานตามอุดมการณ์สูงสุดของชาวอเมริกัน

Your browser doesn’t support HTML5

เปิดโผ 3 สตรี ตัวเก็งผู้ได้รับเสนอชื่อตุลาการศาลสูงแทน ‘รูธ กินส์เบิร์ก’

ทันทีที่บุคคลสำคัญกล่าวคำอาลัยต่อการจากไปของ รูธ กินส์เบิร์ก การเดินเกมส์เพื่อคัดสรรผู้รับตำแหน่งที่ว่างลงก็เกิดขึ้นทันที เพราะการเสนอชื่อเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร ที่หากเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้ง ผู้ที่เล่นบทนี้อาจไม่ใช่คนเดิม

หากพิจารณาถึงวาระของการดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลสูงที่เป็นได้จนสิ้นอายุขัย ผู้ที่จะได้รับตำแหน่งตุลาการคนต่อไป อาจมีผลต่อดุลยภาพระหว่างแนวคิดอนุรักษ์นิยมและเสรีนิยมในการตีความรัฐธรรมนูญ ยาวนานอีกหลายสิบปี

การเสียชีวิตของผู้พิพากษากินส์เบิร์ก ทำให้กลุ่มตุลาการแนวคิดเสรีนิยมในศาลสูง ขาดผู้นำคนสำคัญไปหนึ่งเสียง เหลือเพียง 3 เสียง ขณะที่ตุลาการแนวคิดอนุรักษ์นิยมมีอยู่ 5 เสียง

งานที่รออยู่ตรงหน้าของตุลาการศาลสูง คือการพิจารณาข้อกฎหมายในหลายประเด็นที่มีผลต่อชาวอเมริกัน ตั้งเรื่อง ประกันสุขภาพ คนต่างด้าว การครอบครองปืน และเสรีภาพทางศาสนา เป็นต้น

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยชื่อสตรี 3 คนที่อยู่ในโผ ที่เขาอาจเสนอชื่อให้รับตำแหน่งที่ว่างลง ซึ่งแต่ละคนเป็นนักกฎหมายที่คิดแบบอนุรักษ์นิยมทั้งสิ้น

President Donald Trump speaks about the death of Supreme Court Justice Ruth Bader Ginsburg after a campaign rally at Bemidji Regional Airport, Sept. 18, 2020, in Bemidji, Minnesota.

สตรีคนแรกคือ ผู้พิพากษาศาลอุทรณ์ อัลลิสัน โจนส์ รัชชิ่ง (Allison Jones Rushing) วัย 38 ปี ถือว่าอายุน้อยที่สุดในตัวเลือกทั้ง 3 ที่ทรัมป์เปิดเผย

เมื่อปีที่แล้ว เธอได้รับการรับรองให้ทำหน้าที่ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลาง ด้วยเสียงสนับสนุนในวุฒิสภา 53 เสียงต่อ 44 ตามสัดส่วนส.ว.พรรครีพับลิกันที่คุมเสียงข้างมากและส.ว.เดโมเเครตที่เป็นเสียงข้างน้อย

นักการเมืองเดโมเเครตกังวลว่าผู้พิพากษารัชชิ่ง มีทัศนะไม่ส่งเสริมเกย์และเลสเบี้ยน ผู้ต่อต้านผู้พิพากษารัชชิ่ง กล่าวว่าเธอเคยฝึกงานที่องค์กร Alliance Defending Freedom ซึ่งเป็นหน่วยอนุรักษ์นิยมในรัฐแอริโซนา ที่ช่วยปกป้องสิทธิ์ของการปฏิเสธทำเค้กแต่งงานให้กับชาวเกย์ และในอีกคดีหนึ่งก็ช่วยปกป้องสิทธิ์ของบริษัทต่างๆให้สามารถตัดยาคุมกำเนิดในการเสนอประกันสุขภาพต่อลูกจ้าง โดยอ้างเหตุผลเรื่องความเชื่อทางศาสนาของเจ้าของกิจการ

และเมื่อ 5 ปีก่อน ที่ศาลสูงสหรัฐฯ วินิจฉัยให้คนเพศเดียวกันเเต่งงานกันได้ด้วยเสียง 5 ต่อ 4 ผู้พิพากษารัชชิ่งกล่าวว่าเธอสนับสนุนตุลาการเสียงส่วนน้อย

สตรีคนที่ 2 ในโผของทรัมป์คือ เอมี คอนีย์ แบร์เร็ต ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ วัย 48 ปี ที่เคยสอนวิชากฎหมายที่มหาวิทยาลัย Notre Dame ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาสายคาทอทิกที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่ง ของสหรัฐฯ

เอมี คอนีย์ แบร์เร็ต

วุฒิสภาลงมติให้เธอรับตำแหน่งผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางเมื่อ 3 ปีก่อนด้วยเสียง 55-43

เอมี แบร์เร็ต เคยกล่าวกับนักศึกษาของเธอว่า อาชีพกฎหมายเป็นเพียงเส้นทางสู่จุดหมายปลายทางในการสร้าง “อาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า”

เธอเคยถูกตั้งคำถามจากวุฒิสมาชิก ไดเเอน ไฟน์สไตน์ ว่าความเชื่อทางศาสนาของเธอจะทำให้เธอทำงานในหน้าที่ผู้พิพากษาได้อย่างเหมาะสมหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องเสรีภาพในการทำแท้ง

ในการตอบคำถามในช่วงการกลั่นกรองความเหมาะสม เอมี แบร์เร็ต กล่าวว่าเธอจะพิจารณากฎหมายตามคำวินิจฉัยของศาลสูงที่เคยเกิดขึ้นในอดีต และว่าจะไม่ใช้ความเชื่อส่วนตัวในการพิจารณากฎหมาย

สตรีคนสุดท้ายคือ บาร์บารา ลาโกอ์ วัย 52 ปี ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้วด้วยคะเเนนระดับสูง คือ 80 ต่อ 15 ในวุฒิสภา เธอมีเชื้อสายคิวบา โดยพ่อและแม่ของเธอหนีออกจากคิวบาหลังฟิเดล คาสโตรขึ้นปกครองประเทศในปี ค.ศ. 1959

Barbara Lagoa

ผู้พิพากษาสตรีผู้นี้ เคยส่งสัญญาณว่าจะพิจารณากฎหมายตามที่ถูกเขียนขึ้น

ไม่ว่าใครจะถูกเสนอชื่อโดยประธานาธิบดีทรัมป์ เธอผู้นั้นจะเดินเข้าสูงศาลสูงสหรัฐฯ ขณะที่คนจำนวนมากยังไม่ลืมเจ้าของเก้าอี้ตุลาการที่เพิ่งสิ้นลม เพราะ ชื่อของรูธ กินส์เบิร์ก กลายเป็นตัวอย่างให้แก่บุคคลรุ่นหลัง ผ่านการทำงาน 27 ปี ของเธอบนบัลลังก์ผู้พิพากษาศาลสูงสหรัฐฯ

บริเจ็ตต์ เวค สตรีผู้ร่วมแสดงความอาลัยต่อการเสียชีวิตของผู้พิพากษากินส์เบิร์กกล่าวว่า ตุลากรผู้นี้ยืนหยัดเพื่อสตรี และใช้ผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน เป็นที่ตั้งในการทำงาน สิ่งนี้ทำให้เธอเคารพในตัวตุลาการผู้นี้อย่างยิ่ง