Your browser doesn’t support HTML5
ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกมีกว่า 4 แสนคน โดยมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 18,500 คน และสหรัฐเองก็มียอดผู้ติดเชื้อกว่า 5 หมื่นคน หรือกว่า 10% ของผู้ติดเชื้อทั่วโลก และเสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 660 คนนั้น องค์การอนามัยโลกได้เตือนว่า สหรัฐอาจเป็นศูนย์กลางสำหรับการระบาดแห่งใหม่ของโลกได้
แต่เมื่อเช้าวันอังคาร ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ทวีตว่า คนอเมริกันต้องการกลับไปทำงานโดยยังคงมีมาตรการอยู่ห่างทางสังคมในบางพื้นที่ และผู้สูงอายุจะได้รับการปกป้องคุ้มครอง
ประธานาธิบดีทรัมป์ยังลงท้ายข้อความทวีตด้วยว่า การรักษาไม่ควรจะเลวร้ายมากไปกว่าตัวปัญหา
ท่าทีของผู้นำสหรัฐเรื่องนี้สะท้อนแนวคิดที่ต้องการผ่อนคลายมาตรการจำกัดการติดต่อสัมผัสระหว่างบุคคล โดยเมื่อวันจันทร์ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้กล่าวว่า ประเทศของเราไม่เหมาะสำหรับการ shut down หรือการที่กิจกรรมแทบทุกอย่างต้องถูกจำกัดหรือหยุดชะงักลง โดยประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการให้ผ่อนคลายหรือยกเลิกมาตรการอยู่ห่างทางสังคมนี้ภายในวันอีสเตอร์ คือวันที่ 12 เมษายน
ผู้นำสหรัฐอ้างว่า ผู้ที่อาจเสียชีวิตจากวิกฤติทางเศรษฐกิจซึ่งดำเนินไปอย่างยืดเยื้อนั้นจะมีมากกว่าผู้เสียชีวิตจากไวรัส และว่าสังคมอเมริกันจะกลับมาเปิดกว้างสำหรับธุรกิจต่าง ๆ ได้อีกครั้งในไม่ช้า เพราะเวลาสามถึงสี่เดือนของการจำกัดกิจกรรมทางสังคมนั้นยาวนานมากไป แม้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเคยเตือนว่าต้องใช้
โดยประธานาธิบดีสหรัฐให้ความเห็นว่า หากปล่อยให้นักวิทยาศาสตร์หรือแพทย์ตัดสินใจเรื่องนี้เอง คนเหล่านั้นก็คงต้องการปิดโลกทั้งโลกอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ท่าทีของผู้นำสหรัฐที่ต้องการรีบเปิดสังคมอเมริกันให้กลับมามีกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อย่างเคยนี้ ขัดกับความเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขหลายคนที่เตือนว่า การยกเลิกมาตรการจำกัดควบคุมทางสังคมเพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจ กับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนั้นไม่สามารถไปด้วยกันได้
อย่างเช่น น.พ. โรเบิร์ต เมอร์ฟี ผู้อำนวยการบริหารของสถาบันสุขภาพระดับโลก ของมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น กล่าวว่า ตนรู้สึกตกตะลึงกับแนวคิดแบบนี้ และหวังว่าจะไม่มีการผ่อนคลายเรื่องการเว้นระยะห่างทางสังคมเพื่อเห็นแก่เรื่องเศรษฐกิจเร็วเกินไป
และว่า หากมีการทำเช่นนั้นจริง เรื่องนี้ก็จะเป็นวิธีที่น่าเศร้าเพื่อทดสอบทฤษฎีวิวัฒนาการของชาร์ล ดาร์วิน ที่เรียกกันว่า Survival of the Fittest ซึ่งกล่าวว่าวิวัฒนาการต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้มาจากกระบวนการเลือกสรรของธรรมชาติ และสิ่งมีชีวิตที่เหมาะสมที่สุดกับสภาพแวดล้อมจะสามารถอยู่รอดและมีพัฒนาการต่อไปได้
นอกจากการท้วงติงของนักวิทยาศาสตร์แล้ว ส.ส. ลิซ เชนนี่ สมาชิกคนหนึ่งของพรรครีพับลิกัน ก็แสดงความไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้เช่นกัน โดยส.ส. ลิซ เชนนี่ ทวีตว่า เศรษฐกิจของประเทศจะไม่สามารถดำเนินไปตามปกติได้ ถ้าโรงพยาบาลของเราเต็มไปด้วยคนป่วยที่รวมทั้งหมอและพยาบาล จากการที่เราล้มเหลวในการทำเรื่องที่จำเป็นต้องทำเพื่อหยุดยั้งไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ตาม ส.ส. ลิซ เชนนี่ ของพรรครีพับลิกันจากรัฐไวโอมิง อาจเป็นเพียงหนึ่งในเสียงส่วนน้อย เพราะผลการสำรวจหลายครั้งได้แสดงว่า โดยทั่วไปแล้วสมาชิกพรรครีพับลิกันให้ความสำคัญกับภัยคุกคามด้านสุขภาพจากไวรัสโควิด-19 น้อยกว่าสมาชิกของพรรคเดโมแครต
และสมาชิกพรรครีพับลิกันเองเชื่อด้วยว่า สื่อมวลชนกำลังรายงานเรื่องนี้ให้น่าตื่นเต้นเกินเลยความจริง