ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เปิดฉากโจมตีหนังรางวัลจากเกาหลีใต้ Parasite ที่สร้างประวัติศาสตร์กวาด 4 รางวัลใหญ่ออสการ์ในปีนี้ รวมทั้งโจมตีนักแสดงชายชื่อดัง แบรด พิตต์ ที่ได้รับรางวัลใหญ่ของตัวเองบนเวทีเดียวกัน
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวบนเวทีหาเสียงในโคโลราโด เมื่อค่ำคืนวันพฤหัสบดีว่า ออสการ์ปีนี้เลวร้ายมากทีเดียว และหนังยอดเยี่ยมก็มาจากเกาหลีใต้อีก มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกันขึ้น? เราเกิดปัญหามากมายกับเกาหลีใต้ในด้านการค้า แต่เราดันมอบรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปีให้เกาหลีใต้อีก แล้วหนังสนุกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ... ช่วยเอาหนังแบบ Gone with the wind หรือ Sunset Boulevard กลับมาได้ไหม ...
นอกจากนี้ ยังกล่าวพาดพิงถึงแบรด พิตต์ นักแสดงชายชื่อดัง ที่คว้าออสการ์แรกในชีวิต สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ปีนี้ จากเรื่อง Once Upon the time in Hollywood ซึ่งตอนนั้นแบรด พิตต์ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเขาเป็นนักแสดงฮอลลีวู้ดผู้มีแนวคิดเสรีนิยม ขึ้นกล่าวหลังรับรางวัลออสการ์แรกของเขาว่า เขามีเวลา 45 วินาที ซึ่งมากกว่าที่วุฒิสภาสหรัฐฯให้กับนายจอห์น โบลตัน อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงประจำทำเนียบขาวที่ถูกปลดไปเสียอีก
โดยทรัมป์ใช้เวทีหาเสียงในโคโลราโด กล่าวโจมตีแบรด พิตต์ว่า เขาไม่เคยชื่นชอบแบรด พิตต์เลยสักนิด เพราะแบรด พิตต์ ขึ้นไปรับรางวัลบนเวทีออสการ์และขึ้นไปกล่าวคำพูดที่ดูฉลาดๆตามประสาเด็กๆ เขาช่างเป็นพ่อหนุ่มน้อยอวดฉลาดเสียจริงๆ
ด้านบริษัทนีออน ซึ่งได้รับลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ดังจากเกาหลีใต้มาฉายในอเมริกา ทวีตตอบโต้สั้นๆ แต่เจ็บลึกว่า “ก็พอเข้าใจได้ เพราะท่านประธานาธิบดีอ่านหนังสือไม่ออก” พร้อมแฮชแทค #Bong2020 เพื่อล้อเลียนข้อความหาเสียงในการส่งผู้กำกับบอง จุน โฮ เข้าชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯในปีนี้ด้วย
ทั้งนี้ ภาพยนตร์เรื่อง Parasite เป็นภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศเรื่องแรกที่คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ ด้วยการนำเสนอภาพยนตร์เสียดสีสังคม เมื่อครอบครัวที่ยากจนต้องทำตัวเป็น “ปรสิต” แทรกซึมหากินกับครอบครัวคนมั่งมีในเกาหลีใต้ คว้า 4 รางวัลใหญ่ออสการ์ ตั้งแต่ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, หนังภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม บองจุนโฮ และบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม