สงครามรอบใหม่ระหว่างทรัมป์กับสื่อ ถูกมองว่า “ต่ำกว่าเกียรติของตำแหน่งประธานาธิบดี”

President Donald Trump speaks during the Celebrate Freedom event at the Kennedy Center for the Performing Arts in Washington, July 1, 2017.

ขณะเดียวกันผู้สนับสนุนทรัมป์บางรายกล่าวว่ายิ่งรู้สึกตื่นตัวมากขึ้นที่จะปกป้องผู้นำสหรัฐฯ

Your browser doesn’t support HTML5

สงครามรอบใหม่ระหว่างทรัมป์กับสื่อ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดฉากโจมตีสื่อต่อเนื่องรอบใหม่ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ที่มุ่งเป้าไปที่ โจ สการ์โบโรห์ และ มิก้า เบรสซินสกี้ สองผู้จัดรายการข่าวของ MSNBC ตามที่เป็นข่าวไป

เมื่อวันเสาร์ ประธานาธิบดีทรัมป์ไปร่วมงานของสมาคมชาวคริสต์ที่โรงละคร Kennedy Center ในกรุงวอชิงตัน และกล่าวถึงสื่อว่า “กลุ่มสำนักข่าว fake news หรือข่าวเท็จ พยายามทำให้เสียงของพวกเราเงียบหายไปจากสังคม แต่พวกเราจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น เพราะคนรู้ว่าความจริงคืออะไร”

ตามมาด้วยวันอาทิตย์ ที่ผู้นำสหรัฐฯ ส่งทวีตที่มีคลิปตัดต่อจากสมัยที่ โดนัลด์ ทรัมป์ไปปรากฏตัวที่การแข่งขันมวยปล้ำ โดยมีการเอาโลโก้สำนักข่าว CNN มาเป็นศีรษะบุคคลที่ทรัมป์พุ่งเข้าทำร้าย ทั้งกดลงพื้นและต่อยหน้า

CNN รวมทั้งหนังสือพิมพ์ New York Times และ Washington Post คือกลุ่มสื่อที่โดนโดนัลด์ ทรัมป์ โจมตีมาตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

CNN โพสต์ทวิตเตอร์ที่เขียนว่า “เป็นวันที่น่าเศร้าวันหนึ่งเมื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งเสริมความรุนแรงต่อนักข่าว”

CNN บอกว่าคลิปวิดีโอของประธานาธิบดีทรัมป์ “ขาดวุฒิภาวะและต่ำกว่าเกียรติของตำแหน่งประธานาธิบดี”

อย่างไรก็ตาม ทวีตของโดนัลด์ ทรัมป์ มีคนเข้ากดชื่นชอบกว่า 5 แสนคน และรีทวีต หรือแชร์ต่ออีกมากกว่า 3 แสนครั้ง

ความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ลงระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ และสื่อ นำไปสู่บรรยากาศของการเผชิญหน้าระหว่างทีมโฆษกทำเนียบขาวและนักข่าว

ขณะนี้กล้องโทรทัศน์ถูกห้ามนำเข้าการแถลงข่าวหลายงาน และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รองโฆษกทำเนียบขาว ซาราห์ ซานเดอร์ส ตำหนิสื่อว่า “สร้างข่าวเท็จไม่หยุดหย่อน”

เธอบอกว่า หากสื่อไม่เป็นที่น่าเชื่อถือในการเสนอข่าวแล้ว สถานการณ์นี้เป็นอันตรายต่ออเมริกา

นักข่าวจากนิตยสารเพลย์บอย ไบรอัน คาเร็ม ที่อยู่ในห้องแถลงข่าว ตอบโต้แทนกลุ่มนักข่าวว่า “พวกเรามาที่นี่เพื่อถามคำถาม และคุณยืนอยู่ตรงนี้ก็เพื่อตอบคำถาม”

เขาบอกต่อว่า สิ่งที่ทีมโฆษกของทรัมป์กำลังทำอยู่บ่มเพาะความโกรธเคืองแก่คนในชาติ และทำคนคิดว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นฝ่ายถูกเสมอ ขณะที่คนที่เหลือเป็นฝ่ายสำนักข่าว fake news

ปัจจุบันความยอมรับในตัวประธานาธิบดีทรัมป์แตะระดับต่ำสุดอยู่ที่ประมาณร้อยละ 40 ขณะที่คนที่ยังชื่นชอบในตัวเขาอย่างเหนียวแน่นก็ยังคงมีอยู่

ซินเธีย เม็คคลัสกี้ เจ้าของเว็บไซต์สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ deplorablefriends.com กล่าวว่า เธอไม่ใส่ใจการทำตัวขัดธรรมเนียมปฏิบัติของประธานาธิบดีทรัมป์ พวกเธอต้องการคนที่สามารถสู้เพื่อผลประโยชน์ของคนที่ถูกหมางเมิน

ซินเธีย เม็คคลัสกี้ บอกด้วยว่า “ยิ่งสื่อทำตัวไม่เหมาะสม พวกเธอก็ยิ่งอยากปกป้องทรัมป์”

ขณะเดียวกันนักวิชาการ แคเธอลีน บาร์ทเซ็น ผู้อำนวยการศูนย์จรรยาบรรณสื่อ ที่มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน วิทยาเขตแมดิสัน ไม่คิดว่าสื่อกำลังมุ่งโจมตีประธานาธิบดีทรัมป์

เธอกล่าวว่า หน้าที่ของสื่อในสังคมประชาธิปไตยคือการรายงานข่าวในเรื่องสำคัญ เช่น การสืบสวนว่ารัสเซียแทรกแซงการเมืองสหรัฐฯ หรือไม่? และเกี่ยวข้องกับคณะทำงานของโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างไร? ไม่ว่ารัฐบาลต้องการให้สื่อทำข่าวเรื่องนี้หรือไม่ก็ตาม นั่นเป็นบทบาทของสื่อในสังคมที่เสรี

ส่วนอาจารย์ เมทธิว ไฮด์แมน ซึ่งสอนวิชาเกี่ยวกับสื่อและกิจการสาธารณะที่มหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตัน กล่าวว่า ทรัมป์เคยทำให้สื่อดูเป็นฝ่ายอธรรม และประสบความสำเร็จมาแล้วในช่วงหาเสียงประธานาธิบดีปลายปีที่แล้ว แต่ต้องระวังถึงผลร้ายอาจที่ย้อนกลับมาได้

อาจารย์ไฮด์แมน บอกว่า เป็นที่เห็นได้ชัดว่า ขณะนี้ท่าทีของโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้คนจำนวนมากที่เลือกเขาเป็นประธานาธิบดี รู้สึกว่าพวกตนถูกหมางเมิน

(รายงานโดย Peter Heinlein / รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียง)