หลังจากที่เมื่อวันอังคาร อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งในการเลือกตั้งปีค.ศ. 2024 บรรดาผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโจ ไบเดน ต่างมั่นใจว่า การประกาศตัวของทรัมป์อาจช่วยให้ไบเดนได้เป็นผู้นำประเทศสมัยที่สองได้
ไบเดน ซึ่งอยู่ระหว่างการประชุม จี-20 ที่อินโดนีเซีย ถูกผู้สื่อข่าวสอบถามว่ามีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการประกาศตัวชิงตำแหน่งรอบใหม่ของทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ มิได้ตอบคำถามโดยตรงเพียงแต่ยิ้มให้กับประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาคร็อง ที่อยู่ข้างกัน พร้อมกล่าวว่า "ก็ไม่เชิง"
ทั้งตัวประธานาธิบดีไบเดนเองและบรรดาที่ปรึกษาต่างเชื่อว่า เวลานี้ทรัมป์กำลังอ่อนแอและเปราะบางอย่างยิ่ง หลังจากที่พรรครีพับลิกันและนักการเมืองหลายคนที่ทรัมป์ประกาศสนับสนุนอย่างเปิดเผย ต่างพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งกลางเทอมที่ผ่านมา
SEE ALSO: จับตา ‘ทรัมป์’ จ่อชิงชัยเลือกตั้งปธน.สมัยหน้าที่ผ่านมา พรรคเดโมแครตพยายามวาดภาพว่า ทรัมป์เป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ผู้สนับสนุนทรัมป์บุกรุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคม ปีที่แล้ว และการที่ทรัมป์ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2020
ผู้นำระดับสูงของเดโมแครตผู้หนึ่งกล่าวว่า "ทรัมป์คือผู้สมัครที่อ่อนแอเปราะบางที่สุด แต่ก็มีสิ่งที่ทำเนียบขาวต้องระมัดระวังเช่นกัน" ขณะที่ที่ปรึกษาของไบเดนอีกคนหนึ่งชี้ว่า บทเรียนในอดีตที่ผ่านมาสอนว่าอย่าเพิ่งประเมินทรัมป์ต่ำเกินไป รวมทั้งอิทธิพลของเขาที่มีต่อบรรดาผู้นำในพรรครีพับลิกันด้วย
รอยเตอร์ชี้ว่า มีหลายปัจจัยที่จะบ่งชี้ว่า ทรัมป์จะได้รับชัยชนะเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยหน้าหรือไม่ รวมถึงใครจะเป็นคู่แข่งของเขาในการชิงตั๋วตัวแทนพรรค ซึ่งหนึ่งในนั้นอาจจะเป็นผู้ว่าการรัฐฟลอริดา รอน เดซานติส ที่มาแรงหลังการเลือกตั้งกลางเทอมจบลง
ขณะเดียวกัน จนถึงขณะนี้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังคงไม่ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะลงสมัครเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่สองในอีกสองปีข้างหน้าหรือไม่
ไบเดนกล่าวว่า ตนจะสรุปการตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะลงสมัครเลือกตั้งสมัยหน้าหรือไม่หลังเทศกาลวันหยุดยาวปลายปีนี้ โดยหากจะกลับมาลงสมัคร ตนจะปรับเปลี่ยนธีมของการหาเสียงใหม่โดยเน้นที่การฟื้นฟูจิตใจของชาวอเมริกัน และสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นมาอีกครั้ง
รอยเตอร์รายงานว่า เวลานี้ที่ปรึกษาระดับสูงของไบเดนหลายคนเริ่มวางแผนการหาเสียงให้กับไบเดนในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าอาจมีการประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปีหน้า และการหาเสียงจะเดินหน้าเต็มกำลังในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2023
SEE ALSO: ‘เดโมแครต’ ครองวุฒิสภา-ท้ากระแส ‘คลื่นสีแดง’ผลสำรวจเอ็กซิตโพลล์ที่จัดทำโดย Edison Research ในช่วงการเลือกตั้งกลางเทอม ชี้ว่า คนอเมริกัน 56% ไม่ชื่นชอบการทำงานของไบเดน และมี 41% ที่ชื่นชอบ ขณะที่ 58% มีมุมมองไม่ชื่นชอบในตัวทรัมป์ เทียบกับ 39% ที่ชื่นชอบ
นอกจากนี้ มากกว่า 2 ใน 3 ของกลุ่มตัวอย่าง บอกว่าประชาธิปไตยของอเมริกากำลังถูกคุกคาม และมี 1 ใน 3 ที่มองว่า ไบเดนชนะการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 อย่างไม่ถูกต้อง
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจความเห็นคนอเมริกันที่จัดทำโดย Reuters/Ipsos ระบุว่า คนอเมริกันส่วนใหญ่ต้องการให้จำกัดอายุของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อยู่ที่ไม่เกิน 75 ปี ซึ่งเวลานี้ประธานาธิบดีไบเดนอายุ 80 ปีแล้วและถือเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อายุมากที่สุด ขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ มีอายุ 76 ปี
- ที่มา: รอยเตอร์