ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ หรือราวหนึ่งเดือนหลังเหตุการณ์บุกยึดรัฐสภาของผู้สนับสนุนอีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะมีการเริ่มกระบวนของฝ่ายสมาชิกวุฒิสภา 100 คนในกระบวนการพิจารณาถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง หรือกระบวนการ impeachment
นอกจากจะเป็นครั้งเเรกในประวัติศาสตร์ที่สภาเดินเรื่องถอดถอน ผู้นำสหรัฐฯที่พ้นตำแหน่งไปเเล้ว ยังป็นครั้งแรกที่มีกระบวนการ impeachment ผู้นำอเมริกันคนเดิม ซำ้สองครั้ง กล่าวคือโดนัลด์ ทรัมป์เคยถูกพิจารณาถอดถอนไปแล้วเมื่อราวหนึ่งปีก่อน
ในครั้งก่อนเขาถูกเดินเรื่องขอถอดถอนจากข้อกล่าวหาที่เขากดดันให้ยูเครนตรวจสอบบุคคล เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง
SEE ALSO: 'สภาสูงสหรัฐฯ' เริ่มกระบวนการพิจารณาข้อกล่าวหาขอถอดถอนทรัมป์ในครั้งนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ถูกดำเนินการ impeachment จากข้อกล่าวหาที่ว่า อดีตผู้นำสหรัฐฯมีส่วนทำให้ผู้สนับสนุนเขาบุกยึดอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม ขณะที่ฝ่ายนิติบัญญัติกำลังรับรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ทรัมป์แพ้ต่อโจ ไบเดน เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย
ฝ่ายเดโมเเครตได้เเต่งตั้ง ส.ส. เจมี ราสกิน จากรัฐเเมรี่เเลนด์ เป็นผู้เดินเรื่องหลักเพื่อเอาผิดโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่ทรัมป์เเต่งตั้งทนายสองคนให้ช่วยแก้ต่าง คือ เดวิด เชิน และบรูซ เคสเตอร์
หลังจากที่ ส.ส. เจมี ราสกิน ออกจดหมายให้ทรัมป์ให้การต่อสภาด้วยตนเอง ทนายทั้งสองคนของอดีตผู้นำสหรัฐฯกล่าวปฏิเสธ ที่จะทำตามและว่าข้อเรียกร้องนี้เป็นความพยายามเรียกร้องความสนใจเท่านั้น
ในข้อกล่าวหาที่เดโมเเครตต้องการเอาผิดต่อทรัมป์ มีการเเสดงเหตุผลที่ชี้ว่าคำพูดของโดนัลด์ ทรัมป์ในการปราศรัยไม่ไกลจากทำเนียบขาวต่อผู้สนับสนุนไม่นานก่อนที่ม็อบกลุ่มนี้จะบุกยึดสภา ทำให้ฝูงชนก่อนเหตุรุนเเรง
ฝ่ายทนายของอดีตประธานาธิบดี ทรัมป์ ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
ทั้งนี้ ทั้งฝ่ายเดโมเเครตที่มีงานเรื่องการสนับสนุนนโยบายของประธานาธิบดีไบเดนรออยู่ และฝ่ายของโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ต้องการให้การพิจารณาความผิดในข้อกล่าวหาดังกล่าวยืดเยื้อ
คาดว่าวุฒิสมาชิกทั้ง 100 คนจะสามารถมีคำวินิจฉัยได้ภายในหนึ่งถึงสองสัปดาห์ นั่นหมายความว่ากระบวนการ impeachment รอบนี้น่าจะเร็วกว่าครั้งก่อนกินเวลาประมาณ 3 สัปดาห์
สำหรับประเด็นที่ว่า เดโมเเครตจะสามารถเอาผิดโดนัลด์ ทรัมป์ได้ในกระบวนการ impeachment ครั้งนี้หรือไม่ หากประเมินถึงข้อกำหนดที่ว่า ต้องใช้เสียงสองในสามของวุฒิสภาในการถอดถอน
ส.ว. เดโมเเครตทั้ง 50 นอกจากจะต้องออกเสียงพร้อมเพรียงกันแล้วยังต้องได้เสียงสนับสนุนเพิ่ม 17 คนจากฝ่ายรีพับลิกัน มาร่วมกับฝ่ายตนด้วย ดังนั้นจึงเป็นที่คาดหมายว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่ถูกพิจารณาว่ามีความผิดโดยวุฒิสภา
อย่างไรก็ตามหากเดโมเเครตต้องการดำเนินการต่อ พวกเขาอาจขอผ่านญัตติเชิงสัญลักษณ์เพื่อประณามอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หรือ resolution to “censure" อีกทางเลือกหนึ่งคือขออ้างกฎหมายรัฐธรรมนูญ ในบทแก้ไขเพิ่มเติมข้อที่ 14 ที่อาจทำให้โดนัลด์ ทรัมป์ ขาดคุณสมบัติที่จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกในอนาคตได้