สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต กล่าวหาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระหว่างกระบวนการพิจารณาถอดถอนประธานาธิบดีในวุฒิสภาสหรัฐฯ เป็นวันที่สอง โดยบอกว่าผู้นำสหรัฐฯ ผู้นี้สร้าง "แผนการทุจริต" ขึ้นมาเพื่อกดดันยูเครนให้สืบสวนคู่แข่งทางการเมืองของตน คืออดีตรองประธานาธิบดี โจ ไบเด้น จากพรรคเดโมแครต เพื่อเหตุผลเดียวคือ "ฉ้อโกงการเลือกตั้งประธานาธิบดี" ที่กำลังจะมาถึง
ส.ส.อดัม ชิฟฟ์ กล่าวต่อวุฒิสมาชิก 100 คน ที่ทำหน้าที่คล้ายคณะลูกขุนในกระบวนการพิจารณาถอดถอนประธานาธิบดีครั้งนี้ว่า "ประธานาธิบดีทรัมป์แสดงให้เห็นถึงความเชื่อของตนเองว่า ตนอยู่เหนือกฎหมาย"
ส.ส.ชิฟฟ์ ในฐานะหัวหน้าคณะผู้ดำเนินการของสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขอถอดถอนประธานาธิบดี หรือ Impeachment Managers ซึ่งทำหน้าที่คล้ายอัยการในการยื่นขอถอดถอนผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์พยายามหาตัวช่วยจากต่างประเทศเพื่อทำให้ตนชนะการเลือกตั้งอีกครั้ง ด้วยการชะลอเงินช่วยเหลือจำนวน 391 ล้านดอลลาร์ที่รัฐสภาอนุมัติให้กับยูเครน เพื่อแลกกับการสืบสวนกรณีนายไบเด้นและบุตรชาย ฮันเตอร์ ไบเด้น ซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดคำปฏิญาณที่ให้ไว้ตอนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี
ถึงแม้ประธานาธิบดีทรัมป์จะปฏิเสธว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นข้อตกลงเพื่อแลกเปลี่ยนแบบเอื้อประโยชน์กับผู้นำของยูเครนก็ตาม แต่หลังจากที่มีรายงานเรื่องนี้ ได้มีนักการทูตอเมริกันที่เกี่ยวข้องหลายคน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของทำเนียบขาว ไปแถลงให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่ไต่สวนกรณีดังกล่าว ระบุว่าประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการให้ยูเครนช่วยเหลือตนเพื่อให้ได้ประโยชน์ทางการเมืองสำหรับการเลือกตั้งในสหรัฐ
ภายในวันเสาร์ ทนายความของประธานาธิบดีทรัมป์จะเริ่มว่าความเพื่อปกป้องประธานาธิบดี โดยจะใช้เวลาสามวันในการทำให้คณะลูกขุน หรือ วุฒิสมาชิกทั้ง 100 คน เชื่อว่าผู้นำสหรัฐฯ ไม่มีความผิดในสองญัตติ คือการใช้อำนาจในทางที่ผิด และการขัดขวางกระบวนการตรวจสอบของรัฐสภา