Your browser doesn’t support HTML5
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวที่การประชุมเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ในวันอังคาร ระบุว่าเศรษฐกิจอเมริกากำลังเจริญรุ่งเรือง พร้อมกล่าวปกป้องนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของตนเอง ท่ามกลางมรสุมการเมืองในประเทศสืบเนื่องจากกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีในวุฒิสภาสหรัฐฯ ที่เริ่มขึ้นในวันอังคารเช่นกัน
การประชุมประจำปี World Economic Forum ครั้งที่ 50 เริ่มขึ้นในวันอังคารที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์
ประธานาธิบดีทรัมป์ขึ้นกล่าวบนเวทีการประชุมครั้งนี้ ยกย่องผลงานทางเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดปัจจุบัน โดยเฉพาะการทำข้อตกลงการค้าฉบับใหม่กับจีน แคนาดา และเม็กซิโก ที่ทรัมป์บอกว่าเป็น "ชัยชนะอีกครั้งอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน"
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุด้วยว่า เวลานี้เศรษฐกิจอเมริกันกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วอย่างที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อน
ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯ ตำหนิกลุ่มคนที่วิพากษ์วิจารณ์นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของตนโดยใช้คำเรียกว่า "ผู้นำพาหายนะ" และว่าพวกกระต่ายตื่นตูมเหล่านี้มักเรียกร้องในสิ่งเดิม ๆ คือการมีอำนาจเบ็ดเสร็จในการครอบครอง จัดสรรและควบคุมทุกอย่างในชีวิตของเรา พร้อมย้ำว่าจะไม่ยอมให้กลุ่มสังคมนิยมสุดโต่งมาทำลายเศรษฐกิจ ทำลายประเทศ หรือจำกัดเสรีภาพของมนุษย์
ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐฯ มีนโยบายสิ่งแวดล้อมที่ดีเยี่ยม และถือเป็นประเทศที่มีคุณภาพน้ำและอากาศสะอาดที่สุด
ผู้นำสหรัฐฯ รับปากด้วยว่าอเมริกาจะเข้าร่วมในโครงการปลูกต้นไม้ 1 พันล้านต้นทั่วโลก แม้นักรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมจะบอกว่าโครงการนี้ไม่เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกก็ตาม
ภายหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ขึ้นกล่าว วัยรุ่นหญิงชาวสวีเดนผู้รณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อม เกรต้า ธันเบิร์ก ได้กล่าววิพากษ์วิจารณ์บรรดาผู้นำโลกที่ร่วมการประชุมในครั้งนี้ว่า ไม่เอาจริงเอาจังเรื่องการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน เช่น มาตรการที่เรียกว่า "เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ" ซึ่งไม่ตอบสนองเพียงพอต่อการลดก๊าซคาร์บอนในชั้นบรรยากาศโลก
ธันเบิร์กเรียกร้องให้ภาครัฐ และเอกชนร่วมมืออย่างฉุกเฉินเพื่อยุติการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ใช้เชื้อเพลิงจากซากฟอสซิล ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องยากแต่ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นและเธอยังบอกด้วยว่า "คนรุ่นใหม่จะไม่มีวันยอมแพ้ง่าย ๆ เหมือนคนรุ่นก่อน"
ด้านนักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังใช้เวทีการประชุมดาวอสเพื่อหวังผลทางการเมืองในประเทศ ด้วยการหาเสียงต่อคนอเมริกันผ่านเวทีสำคัญระดับโลกนี้
แมทธิว กู้ดแมน นักวิเคราะห์จาก Center for Strategic and International Studies (CSIS) กล่าวว่า ที่ผ่านมาประธานาธิบดีทรัมป์ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากนโยบายเศรษฐกิจที่เน้นอเมริกามาก่อน ซึ่งตัวประธานาธิบดีทรัมป์เองเข้าใจว่าเป็นนโยบายที่ได้ผล และนั่นแสดงออกมาจากคำกล่าวในเชิงโจมตีผู้ไม่เห็นด้วยในการประชุมที่ดาวอสครั้งนี้ ซึ่งตนเห็นว่าไม่ถูกต้อง
ขณะเดียวกัน โธมัส ชวาร์ตซ์ นักประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกันแห่งมหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลท์ กล่าวว่า สิ่งที่ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังทำอยู่ในขณะนี้ไม่ต่างจากประธานาธิบดีคนก่อน ๆ คือการออกไปประชาสัมพันธ์ผลงานทางเศรษฐกิจของตนในต่างประเทศขณะที่กำลังเผชิญมรสุมทางการเมืองในประเทศ คือการพิจารณาเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีในวุฒิสภาสหรัฐฯ
สำหรับการประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอสปีนี้จะมีต่อเนื่องไปถึงวันที่ 24 มกราคม โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมกว่า 3,000 คน ยังไม่รวมเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจอีกเกือบ 5,000 คน ที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้แก่บรรดาผู้นำโลกที่เข้าร่วมในการประชุมสำคัญครั้งนี้