ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีโคลัมเบีย อิวาน ดูเก้ พบหารือในวันพุธที่ทำเนียบขาว โดยมุ่งเน้นที่เรื่องการกดดันให้ประธานาธิบดีเวเนซูเอลา นิโคลาส์ มาดูโร่ ลงจากตำแหน่ง
ประธานาธิบดีดูเก้ กล่าวกับประธานาธิบดีทรัมป์ ในช่วงเริ่มการประชุมว่า โคลัมเบียต้องการยุติระบอบเผด็จการที่ป่าเถื่อนในเวเนซูเอลา
ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า เกิดความวุ่นวายในเวเนซูเอลา ผู้คนถูกกดขี่ และตนไม่มีความสุขในเรื่องนี้ พร้อมยืนยันว่าตนกำลังพิจารณาทุกทางเลือกที่มี รวมทั้งการใช้กำลังทหารแทรกแซงความวุ่นวายทางการเมืองในเวเนซูเอลาด้วย
เวลานี้รัฐบาลสหรัฐฯ และประเทศทางตะวันตกหลายประเทศ ต่างยอมรับผู้นำฝ่ายค้านเวเนซูเอล่า ฮวน กวัยโด้ เป็นประธานาธิบดีเฉพาะกาลของเวเนซูเอลา ส่วนทางผู้นำโคลัมเบียก็ยืนยันสนับสนุนนายกวัยโด้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่แทนนายมาดูโรเช่นกัน
ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวด้วยว่า การที่ ปธน.มาดูโร ปฏิเสธที่จะรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากสหรัฐฯ ด้วยการปิดถนนที่เชื่อมระหว่างพรมแดนเวเนซูเอลากับโคลัมเบียนั้น แสดงให้เห็นถึงความไม่น่าเชื่อถือของรัฐบาลเวเนซูเอลา
ส่วน ปธน.ดูเก้ ของโคลัมเบีย บอกว่าการขัดขวางความช่วยเหลือนั้นถือเป็นการก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษย์ โดยเวลานี้ โคลัมเบียได้ยอมรับผู้ลี้ภัยชาวเวเนซูเอลากว่า 2 ล้านคนเข้าประเทศ
ปธน.มาดูโร ของเวเนซูเอลา ได้ใช้มาตรการสกัดกั้นขบวนรถขนส่งความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ไว้ที่ชายแดนติดกับโคลัมเบีย เนื่องจากเกรงว่าความช่วยเหลือเหล่านั้นจะเป็นข้ออ้างที่สหรัฐฯ ส่งทหารเข้าไปในเวเนซูเอลา
แต่นายกวัยโด้ ยืนยันว่าจะเปิดทางให้ความช่วยเหลือดังกล่าวเข้าสู่เวเนซูเอลาได้ในวันที่ 23 ก.พ. ไม่เช่นนั้นอาจมีชาวเวเนซูเอลาเกือบ 300,000 คนเสียชีวิต หากไม่ได้รับความ่ชวยเหลือด้านอาหารและยารักษาโรคเหล่านั้น