ทรัมป์เรียกเหตุการณ์อิหร่านโจมตีโดรนสหรัฐฯ "เรื่องเล็กๆ ที่อาจทำให้งานใหญ่เสีย"!!

President Donald Trump gives thumbs up to the media as Canadian Prime Minister Justin Trudeau departs the White House, June 20, 2019, in Washington.

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวต่อผู้สื่อข่าวในวันพฤหัสบดีว่า เหตุการณ์ที่อิหร่านยิงเครื่องบินโดรนของสหรัฐฯ ตกบริเวณช่องแคบฮอร์มุซนั้น ถือเป็นความผิดพลาดอย่างมากของอิหร่าน และจะยิ่งทำให้ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น

ปธน.ทรัมป์ ใช้สำนวนเปรียบเหตุการณ์นี้ว่า "This is a new fly in the ointment," ซึ่งหมายถึง "สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้งานใหญ่เสียได้"

ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวก่อนการประชุมกับนายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด ที่ทำเนียบขาว ระบุว่ามีหลักฐานชัดเจนว่าโดรนที่ถูกยิงตกนั้นอยู่ในน่านฟ้าสากลและถือว่าเป็นความผิดพลาดร้ายแรงของรัฐบาลอิหร่าน

แต่ต่อมาประธานาธิบดีทรัมป์พยายามบรรเทาความตึงเครียดของเหตุการณ์นี้ โดยกล่าวว่าอาจเป็นคำสั่งของใครสักคนที่โง่เขลาและหละหลวม และว่าเรื่องนี้จะแตกต่างออกไปอย่างมาก หากอิหร่านยิงเครื่องบินที่มีนักบินนั่งไปด้วย

ก่อนหน้านี้ กองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติของอิหร่าน กล่าวอ้างว่าได้ยิงเครื่องบินโดรน RQ-4 Global Hawk ตกในเขตน่านฟ้าของอิหร่าน เพื่อปกป้องพรมแดนจากศัตรู

แต่ทางกองทัพอากาศสหรัฐฯ ประจำกองบัญชาการภาคพื้นตะวันออกกลาง มีคำแถลงว่าข้ออ้างของอิหร่านนั้นไม่ถูกต้อง เพราะโดรนลำนั้นยังอยู่เหนือน่านฟ้าสากลห่างจากชายฝั่งของอิหร่าน 34 กิโลเมตรขณะถูกโจมตี และว่าอิหร่านโจมตีต่อเครื่องมือลาดตระเวณของสหรัฐฯ ซึ่งไม่ได้ล่วงล้ำน่านฟ้าของอิหร่านแต่อย่างใด

แถลงการณ์ของกองทัพสหรัฐฯ ระบุด้วยว่า การโจมตีครั้วนี้คือความพยายามขัดขวางการลาดตระเวณของสหรัฐฯ หลังจากเพิ่งเกิดเหตุการณ์โจมตีเรือขนส่งน้ำมันหลายลำในบริเวณนั้น

FILE - An Global Hawk drone conducts tests over Maryland in this undated U.S. Navy photo. NATO is purchasing a derivative of the Global Hawk from Northrop Grumman.

โดรน RQ-4 มีราคาลำละกว่า $222 ล้านดอลลาร์ และสามารถบินลาดตระเวณได้วันละ 100,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งพอๆ กับอาณาเขตของประเทศเกาหลีใต้และไอซ์แลนด์

ทางการสหรัฐฯ ระบุว่า เวลานี้ได้ส่งเรือไปยังช่องแคบฮอร์มุซเพื่อพยายามกู้ซากโดรนลำนั้นขึ้นมาแล้ว

ความกังวลเรื่องการเผชิญหน้าทางทหารระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน เพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อสหรัฐฯ กล่าวหาอิหร่านว่าเป็นผู้วางระเบิดเรือขนส่งน้ำมันสองลำบริเวณอ่าวโอมาน ซึ่งทางอิหร่านปฏิเสธ

ด้านประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน เตือนให้สหรัฐฯ ใช้ความระมัดระวังในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ครั้งล่าสุดนี้ โดยบอกว่าหากสหรัฐฯ ตัดสินใจใช้กำลังทหาร จะเกิดหายนะครั้งใหญ่ในตะวันออกกลาง