กิจกรรม Town Hall โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และอดีตรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่จัดแยกเวทีจาก 2 เมือง นำเสนอภาพความขัดแย้งที่ชัดเจนระหว่างสองผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ก่อนวันเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึง 3 สัปดาห์
ขณะที่ปธน.ทรัมป์ และอดีตรองปธน.ไบเดน ไม่ได้ยืนอยู่บนเวทีเดียวกันและตอบคำถามจากผู้ดำเนินรายการคนเดียว หรือประชาชนผู้เข้าร่วมกิจกรรมดังที่ควรเป็นไปในการจัดงานโต้วาทีอภิปรายรอบที่ 2 ทั้งคู่นำเสนอประเด็นที่มีทั้งต่างกันและคล้ายๆ กัน
สำนักข่าว Associated Press รายงานว่า ระหว่างการขึ้นเวทีพูดคุยซึ่งได้รับการถ่ายทอดผ่านเครือข่ายของสถานีโทรทัศน์ NBC เมื่อคืนวันพฤหัสบดีตามเวลาในสหรัฐฯ ปธน.ทรัมป์ เหมือนจะยอมรับเนื้อหาในรายงานพิเศษของหนังสือพิมพ์ เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ ว่า ตนมีหนี้สินอยู่ราว 400 ล้านดอลลาร์ แต่ย้ำว่าไม่ได้เป็นเงินที่ตนติดผู้ให้ยืมจากรัสเซีย หรือ “กลุ่มคนร้ายใดๆ” ทั้งยังยืนยันว่า หนี้ก้อนหนี้เป็นสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับสินทรัพย์รวมของตน และพยายามชี้แจงว่า รายงานข่าวที่กล่าวว่า ตนแทบไม่เคยเสียภาษีเงินได้ให้รัฐบาลกลางเลยเป็นเวลาหลายปี เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
ส่วนอดีตรองปธน.ไบเดน วิจารณ์นโยบายต่างประเทศของปธน.ทรัมป์ ภายใต้คำขวัญ America First ว่าทำให้สหรัฐฯ ถูกโดดเดี่ยว รวมทั้งกล่าวหาว่า ผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบัน อ้าแขนโอบรับคนร้ายทั่วโลกไว้
วิกฤตการระบาดของโควิด-19
สำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานว่า บนเวทีในเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็นรัฐบ้านเกิดของอดีตรองปธน.ไบเดน ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต กล่าวโทษ ปธน.ทรัมป์ ว่า ทำการปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับความร้ายแรงของไวรัสนี้ ซึ่งมีประชาชนในสหรัฐฯ ติดเชื้อไปแล้วเกือบ 8 ล้านคน ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 217,000 คนแล้ว
อดีตรองปธน.ไบเดน ระบุว่า ปธน.ทรัมป์ อ้างว่าที่ไม่ได้บอกกับผู้ใดเกี่ยวกับความจริงนี้ เพราะกลัวว่า ชาวอเมริกันจะตื่นตระหนก แต่ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครตชี้ว่า “ชาวอเมริกันไม่ได้จะตื่นตระหนก แต่ทรัมป์ต่างหากที่ตื่นตระหนกไปแล้ว”
ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์ ใช้โอกาสจัดเวที Town Hall ในเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ในการตอบโต้ข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการรับมือการระบาดโควิด-19 ของรัฐบาลรวมทั้งการจัดกิจกรรมต่างๆ ในช่วงที่มีการระบาด เช่น การเปิดทำเนียบขาวรับแขก โดยที่ไม่ได้บังคับให้ทุกคนใส่หน้ากาก หรือ รักษาระยะห่างทางสังคม ซึ่งส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไปมากมาย
ปธน.ทรัมป์ กล่าวว่า ตนนั้นเป็นประธานาธิบดี และจำเป็นต้องพบหน้าผู้คน โดย “ไม่สามารถมัวแต่หลบอยู่ในห้องใต้ดินได้” ซึ่งหลายคนมองว่า เป็นการวิจารณ์ อดีตรองปธน.ไบเดน ที่หยุดพักการหาเสียงไว้ช่วงหนึ่งเมื่อวิกฤติโคโรนาไวรัสรุนแรงขึ้น
และเมื่อ ซาวานนาห์ กัธธรี ผู้ดำเนินรายการจากสถานีข่าว NBC News ถามปธน.ทรัมป์ว่า ก่อนจะยืนยันการติดเชื้อเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ครั้งสุดท้ายที่ตนรับการทดสอบและผลออกมาเป็นลบคือเมื่อใด ผู้นำสหรัฐฯ ตอบว่าตนจำไม่ได้แน่นอน และยังย้ำว่า ตน “ได้ยินข้อมูลที่แตกต่างกัน” เกี่ยวกับประสิทธิภาพของหน้ากากในการป้องกันการระบาดของโควิด-19 แม้ว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขของรัฐบาลสหรัฐฯ จะย้ำมาเสมอว่า การสวมหน้ากากคือหนึ่งในปัจจัยหลักที่จะช่วยหยุดการระบาดของไวรัสก็ตาม
ตุลาการศาลสูงสหรัฐฯ
ขณะที่กระบวนการยืนยันการแต่งตั้งผู้พิพากษา เอมี่ โคนีย์ แบร์เรตต์ โดยวุฒิสภาสหรัฐฯ ยังดำเนินอยู่นี้ สองผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ พยายามระวังการให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นกิจการศาลสูงของประเทศในระหว่างร่วมกิจกรรม Town Hall อย่างมาก
อดีตรองปธน.ไบเดน กล่าวว่า ตนนั้น “ไม่ได้เป็นแฟน” ของแนวคิดการเพิ่มจำนวนตุลาการศาลสูงจากที่ปัจจุบันมีอยู่ 9 คน ซึ่งเป็นสิ่งที่สมาชิกพรรคเดโมแครตบางส่วนพยายามนำเสนอ เพื่อที่จะเพิ่มสัดส่วนตุลาการหัวเสรีนิยม ที่จะลดลงเป็น 3 ต่อ 6 หากการยืนยันการแต่งตั้งผู้พิพากษา แบร์เรตต์ เสร็จสิ้นโดยไม่สะดุด แต่ขอไม่ยืนยันว่า เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้น โดยระบุว่า “ขึ้นอยู่กับสถานการณ์หลังจากนี้”
ขณะที่ ปธน.ทรัมป์ ไม่ยอมตอบว่า ตนมีความต้องการที่จะเห็นสิทธิ์การทำแท้งของประชาชนถูกยกเลิกไปหรือไม่ หลังจากประเด็นนี้ถูกหยิบยกขึ้นมาถกกันในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเกี่ยวกับทิศทางของกฎหมายนี้ หากผู้พิพากษา แบร์เรตต์ ได้รับการแต่งตั้งสำเร็จ
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่า ผู้พิพากษา แบร์เรตต์ “จะทำการตัดสินใจที่ดีได้” และยืนยันว่า ตนไม่ได้บอกกับว่าที่ตุลาการศาลสูงคนใหม่ว่าควรจะตัดสินใจอะไรทั้งสิ้น
ผลการเลือกตั้งปธน.
ประเด็นผลการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งคำถามที่ ทั้งทรัมป์และไบเดนได้รับในกิจกรรม Town Hall ของตน โดยผู้นำสหรัฐฯ ยอมยืนยันเป็นครั้งแรกว่า ตนจะยอมรับการถ่ายโอนอำนาจโดยสันติ หากตนพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ย้ำว่า ตนต้องการเห็นการเลือกตั้งที่ซื่อสัตย์เท่านั้น
ส่วนอดีตรองปธน.ไบเดนนั้น เมื่อถูกถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเป็นผู้พ่ายแพ้ครั้งนี้ ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครตกล่าวว่า คนอาจเรียกว่าตนเป็น “ผู้สมัครลงรับเลือกตั้งที่ใช้ไม่ได้ และทำหน้าที่ได้ไม่ดีพอ” แต่ยังหวังว่าประชาชนจะเข้าใจว่า พรรคเดโมแครตไม่ได้เป็นพรรคที่มีความขัดแย้งด้านเชื้อชาติ หรือศาสนากับใครๆ ดังเช่นที่ปธน.ทรัมป์พยายามนำเสนอออกมา
ภาพลักษณ์อันแตกต่าง
สำนักข่าว Associated Press รายงานว่า ตลอดเวลา 1 ชั่วโมงบนเวทีในเมืองไมอามีนั้น ปธน.ทรัมป์ ตอบคำถามด้วยสุ้มเสียงอันดังและในลักษณะโต้เถียงกับผู้ดำเนินรายการในหลายๆ ประเด็น รวมทั้งแสดงความหงุดหงิดเกี่ยวกับคำถามที่ ซาวานนาห์ กัธธรี ผู้ดำเนินรายการจากสถานีข่าว NBC News หยิบยกขึ้นมาถาม
ขณะเดียวกัน อดีตรองปธน.ไบเดน นำเสนอภาพลักษณ์ความนิ่งสุขุมตลอดการตอบคำถามนาน 90 นาทีในเมืองฟิลาเดลเฟีย แม้จะมีอาการพูดติดขัดบ้าง และมีการตรวจสอบข้อมูลจากกระดาษโน้ตที่นำขึ้นมาใช้ประกอบก่อนตอบคำถามบ้าง
ทั้งนี้ สองผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีมีกำหนดจะขึ้นแสดงวิสัยทัศน์และร่วมอภิปรายโต้วาทีนัดสุดท้ายบนเวทีเดียวกัน ในวันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม ที่เมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี