ชัยชนะต่อเนื่องในสนามเลือกตั้งขั้นต้นของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ปลุกกระแสต่อต้านผู้อพยพเข้าสหรัฐฯ จนกลายเป็นคลื่นใต้น้ำที่คาดว่าจะไปกระทบดีลร่างงบประมาณสนับสนุนยูเครน ไต้หวัน อิสราเอล ที่ผูกกับนโยบายชายแดน
งบประมาณหลัก 106,000 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนต่างชาติและกวดขันการตรวจคนเข้าเมือง ที่ทำเนียบขาวและสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จากทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันกำลังร่วมมือกันหาข้อสรุปอาจจะเจออุปสรรคใหม่ จากชัยชนะทางการเมืองอย่างต่อเนื่องของโดนัลด์ ทรัมป์
อดีตปธน. ที่กำลังแข่งขันชิงตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกันในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในปลายปีนี้เพิ่งสะสมอีกหนึ่งชัยชนะในเวทีการเลือกตั้งขั้นต้นที่รัฐนิวแฮมป์เชอร์ในวันอังคารที่ผ่านมา ต่อจากศึกการเลือกตั้งขั้นต้นแบบคอคัสที่ไอโอวาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทรัมป์กล่าวหลังชนะในรัฐนิวแฮมป์เชอร์ว่า เรื่องผู้อพยพเป็น “เรื่องใหญ่” และกล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ มีคนเป็นล้านที่ไหลเข้ามาในประเทศโดยผิดกฎหมาย และคนเหล่านั้น “มาจากคุก และสถาบันผู้ป่วยทางจิต” โดยเขาไม่ได้ยกข้อมูลอื่นใดเพื่ออธิบายคำพูดข้างต้นเพิ่มเติม
ที่ผ่านมา ทรัมป์แสดงจุดยืนต่อต้านผู้อพยพด้วยภาษาที่เผ็ดร้อน เช่น การกล่าวว่าผู้อพยพกำลัง “ทำให้เลือดของประเทศของเราเป็นพิษ”
ชัยชนะต่อเนื่องของทรัมป์ที่กำลังเป็นเต็งหนึ่งพรรครีพับลิกันในการเป็นตัวแทนศึกเลือกตั้งปธน. อาจทำให้เขาใช้กระแสนี้เป็นเครื่องมือกดดันสมาชิกรัฐสภาของพรรคในประเด็นผู้อพยพ
“ผมไม่คิดว่าเราควรมีดีลเรื่องชายแดนอะไรเลย เว้นเสียแต่ว่าพวกเราจะได้ทุกอย่างที่จำเป็นในการหยุดการบุกรุกของคนเป็นล้าน ซึ่งหลายคนก็มาจากที่ไหนก็ไม่รู้ เข้ามาในประเทศของเราที่เคยยิ่งใหญ่ แต่ก็กำลังจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง!” ทรัมป์เขียนในแพลตฟอร์ม Truth Social เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
อดีตผู้นำสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า “ผมไม่สงสัยเลยว่าประธานสภาสุดยอดเยี่ยมของเรา ไมค์ จอห์นสัน จะทำให้ดีลที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องสมบูรณ์แบบในพื้นที่ชายแดน”
นโยบายนอกประเทศ กระทบนโยบายในประเทศ
ความเห็นจากทรัมป์มีออกมา หลังประธานสภาผู้แทนราษฎร ไมค์ จอห์นสัน ซึ่งสังกัดพรรครีพับลิกันและแกนนำในสภาคองเกรสหลายคนเข้าหารือกับเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว เพื่อผลักดันร่างคำของบประมาณด้านความมั่นคงแห่งชาติที่จะถูกใช้สนับสนุนยูเครนในการรบกับรัสเซีย รวมถึงมอบให้อิสราเอลและใช้ในพื้นที่อินโด-แปซิฟิก ซึ่งพรรครีพับลิกันวางเงื่อนไขว่าร่างฯ นี้จะต้องผูกกับนโยบายกวดขันพื้นที่ชายแดนสหรัฐฯ ด้วย
ปธน.โจ ไบเดน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า สมาชิกสภาคองเกรสส่วนใหญ่น่าจะสนับสนุนการช่วยเหลือยูเครน แต่คำถามที่สำคัญก็คือสมาชิกส่วนน้อยจะคัดค้านหรือดึงเกมออกไปหรือไม่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง
สมาชิกพรรครีพับลิกันบางรายมีเงื่อนไขในการสนับสนุนงบก้อนดังกล่าวเพิ่มเติม โดยระบุในเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า งบประมาณจะต้องนำไปสู่ยุทธศาสตร์การทูตที่ชัดเจน ที่จะนำสงครามไปสู่จุดสิ้นสุดโดยเร็ว
ผลสำรวจของเอพี ร่วมกับศูนย์วิจัย NORC Center for Public Affairs Research ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา พบว่า ชาวอเมริกันเหนื่อยหน่ายกับบทบาทของสหรัฐฯ ในต่างแดน อันเป็นผลมาจากบทบาทในสงครามรัสเซีย-ยูเครน และการสู้รบระหว่างอิสราเอล-ฮามาส
นอร์แมน ออร์นสตีน ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสกิตติคุณจากสถาบัน American Enterprise Institute กล่าวกับวีโอเอว่า ร่างงบฯ ที่กำลังหารือกันนั้นเป็นผลดีกับพรรคเดโมแครตมากกว่าในศึกเลือกตั้ง เพราะเป็นสิ่งที่เดโมแครตนำไปป่าวประกาศความสำเร็จได้ และรีพับลิกันก็ไม่อยากทำอะไรให้ไบเดนได้ประโยชน์ ในขณะที่ทำให้นโยบายเรื่องชายแดนตกหล่นไปในการหาเสียงเลือกตั้ง
ในสัปดาห์นี้ ตัวแทนเสียงข้างมากในวุฒิสภา ชัค ชูเมอร์ จากพรรคเดโมแครต กล่าวว่า ทีมพูดคุยกำลังจะตกลงกันได้ในเรื่องงบประมาณแล้ว แม้มีหลายคนในฝ่ายขวาจะ “รับลูกจากโดนัลด์ ทรัมป์” มาเพื่อสร้างความปั่นป่วน
ทั้งนี้ แม้กฎหมายดังกล่าวจะได้รับการรับรองในชั้นวุฒิสภาไป ก็อาจจะยังต้องเจอการขัดขวางจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรครีพับลิกันในชั้นสภาล่างอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ ส.ส.พรรคเดโมแครตกล่าวหาว่าเป็น “คำสั่งจากทรัมป์”
ประเด็นที่ยังมีการหารือกันอยู่ คือวิธีการจำกัดจำนวนผู้ได้รับอนุญาตให้อาศัยและทำงานในสหรัฐฯ ได้เป็นการชั่วคราว (parole) ที่พรรครีพับลิกันเห็นว่าไม่ควรมี เนื่องจากจะไปกระตุ้นให้คนลักลอบข้ามแดนมากขึ้น ในขณะที่พรรคเดโมแครตมองว่าเป็นเครื่องมือที่รัฐบาลจะโอบอุ้มกลุ่มคนเปราะบางเอาไว้
- ที่มา: วีโอเอ