พายุโซนร้อน เอลซา ขึ้นฝั่งหาดตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐฟลอริดาในวันพุธ พร้อมคลื่นพายุซัดฝั่งและปริมาณฝนจำนวนมาก ขณะที่กำลังลมไม่รุนแรงมากเท่ากับกรณีของพายุเฮอริเคน
ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ รายงานว่า หลังจากพายุโซนร้อน เอลซา มีความรุนแรงสูงขึ้นถึงระดับของพายุเฮอริเคนช่วงหนึ่งเมื่อวันอังคาร พายุลูกนี้ได้อ่อนตัวกลับลงมาในช่วงข้ามคืนขณะเข้าใกล้ชายฝั่งรัฐฟลอริดา ด้วยความเร็วลมสูงสุดที่ประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ข้อมูลจากศูนย์เฮอริเคนระบุว่า พายุโซนร้อน เอลซา ได้ขึ้นฝั่งทางตอนเหนือของอ่าวฟลอริดาเมื่อก่อนเที่ยงวันพุธแล้ว และพยากรณ์อากาศประเมินว่า พายุลูกนี้จะเคลื่อนตัวต่อไปทางตะวันออกเฉียงใต้และต่อเนื่องไปยังสู่ภูมิภาคส่วนกลางมหาสมุทรแอตแลนติก (mid-Atlantic) ตลอดวันพฤหัสบดีนี้
รอน เดอซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ภาพรวมทั่วไปเมื่อเทียบกับสถานการณ์เมื่อ 3 วันก่อน ชี้ให้เห็นว่า รัฐฟลอริดาโชคดี ที่ไม่ได้รับผลประทบรุนแรงอย่างที่คาดไว้ก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติยังคงคำเตือนให้ประชาชนระวังคลื่นพายุซัดฝั่งในพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตะวันตกของรัฐ ตั้งแต่ใกล้ๆ เมืองซาราโซตา ทางใต้ของเมืองแทมปา ไปจนถึงทางเหนือของรัฐ ตลอดแนวชายฝั่งระยะทาง 315 กิโลเมตร ที่อาจเกิดคลื่นสูง 1 ถึง 2 เมตรซัดเข้าฝั่งได้
นอกจากนั้น ยังมีการคาดการณ์ว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ตามแนวชายฝั่งอ่าวฟลอริดาจะมีปริมาณน้ำฝนราว 7 ถึง 15 เซนติเมตร รวมทั้งยังมีการออกคำเตือนการเฝ้าระวังภัยจากพายุหมุนทอร์นาโดในพื้นที่รัฐนี้ด้วย
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน อนุมัติการประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติเพื่อเร่งส่งความช่วยเหลือภาครัฐลงไปยังพื้นที่รัฐฟลอริดาที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุลูกนี้แล้ว
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พายุเอลซา พัดกระหน่ำชายฝั่งทางใต้ของภาคกลางของคิวบา พร้อมๆ กับฝนตกหนักและคลื่นพายุซัดฝั่ง จนทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสั่งอพยพประชาชนราว 180,000 คน ออกจากบ้านเรือนที่มีความเสี่ยงอาจประสบเหตุอุทกภัยได้
ทั้งนี้ เอลซา คือพายุลูกแรกของฤดูเฮอริเคนของภาคพื้นมหาสมุทรแอตแลนติก ในปีนี้ ที่มีระดับความรุนแรงเทียบเท่ากับพายุเฮอริเคน