สั่งปิดโรงงานผลิตถุงมือยางมาเลเซียเกือบ 30 แห่งหวั่นเป็นแหล่งระบาดโควิด-19

A worker inspects disposable gloves at the Top Glove factory in Shah Alam on the outskirts of Kuala Lumpur, Malaysia.

Your browser doesn’t support HTML5

Business News


รัฐบาลมาเลเซียสั่งปิดโรงงาน 28 แห่งของบริษัทผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ของโลก Top Glove เมื่อต้นสัปดาห์ หลังจากพบว่ามีคนงานมากกว่า 2,000 คนพบติดเชื้อโคโรนาไวรัส โควิด-19

นอกจากการสั่งปิดโรงงานเกือบ 30 แห่งแล้ว ทางการมาเลเซียยังสั่งการให้พนักงานทั้งหมดของบริษัทเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และสั่งกักตัวเองหากพบว่าติดเชื้อด้วย โดยตอนนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย รายงานว่าพบคนงานของบริษัทดังกล่าว 2,453 รายติดเชื้อโควิด และสั่งตรวจหาเชื้อไปแล้ว 5,700 ราย

ทางการมาเลเซีย เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงขึ้น ในเขตอุตสาหกรรม ชานกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย ซึ่งเป็นพิกัดที่ตั้งของโรงงานผลิตถุงมือยางของ Top Glove และเป็นที่พักของคนงานของบริษัทนี้ด้วย

ทางบริษัท Top Glove ออกแถลงการณ์ ระบุว่า บริษัทยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับทางการมาเลเซีย ในการสกัดกั้นการระบาดของโควิด-19 และได้เริ่มปิดโรงงานไปแล้ว ซึ่งอาจส่งผลให้การจัดส่งถุงมือยางของบริษัทล่าช้าไปอีกราว 2-4 สัปดาห์ได้

ที่ผ่านมาบริษัท Top Glove มีพนักงานราว 21,000 คนในมาเลเซีย เวียดนาม จีน และไทย ผลิตถุงมือยางเฉลี่ย 90,000 ล้านชิ้นต่อปี ส่งออกไปใน 195 ประเทศทั่วโลก ครองส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 1 ใน 4 ของตลาดถุงมือยางที่ใช้ทางการแพทย์

ท่ามกลางการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ได้ทำให้ความต้องการอุปกรณ์และชุดป้องกันส่วนบุคคล (PPE) เพิ่มขึ้นอย่างมาก ดันให้บริษัทมีกำไรทำสถิติใหม่ในปีนี้