Your browser doesn’t support HTML5
คณะผู้จัดงานแข่งขันกีฬาโอลิมปิก แถลงเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมว่า ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก “โตเกียว 2020” นี้จะเป็นการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งแรกที่ใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า (Facial Recognition) เข้ามาช่วยระบบรักษาความปลอดภัยรอบสถานที่จัดการแข่งขันทั้งหมด
ผู้จัดเชื่อมต่อข้อมูลกับ ระบบของ NEC บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาระบบจดจำใบหน้านี้ และนำมาใช้เป็นครั้งแรกในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กำลังจะมีขึ้น
เทคโนโลยีดังกล่าวซึ่งถูกนำมาสาธิตแก่บรรดาสื่อมวลชนที่กรุงโตเกียว จะใช้ชิพ IC ในบัตรประจำตัว เพื่อยืนยันอัตลักษณ์ของผู้ที่เข้ามายังสนามกีฬามากกว่า 40 แห่งโดยอัตโนมัติ
นักกีฬาและเจ้าหน้าที่โอลิมปิกกว่า 300,000 คนจะต้องส่งรูปถ่ายของตนเพื่อบันทึกลงในฐานข้อมูล ก่อนที่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2020
คุณ Tsuyoshi Iwashita หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020” อธิบายว่า ตามปกติ การเข้าสนามกีฬาต้องมีการตรวจความปลอดภัย ซึ่งจะเสียเวลามาก การนำระบบจดจำใบหน้านี้มาใช้ นอกจากจะช่วยยกระดับการรักษาความปลอดภัยแล้วยังลดขั้นตอนไม่ให้นักกีฬาเสียเวลารอนาน
เขาบอกด้วยว่า ระบบจดจำใบหน้าที่จะนำมาใช้มีความแม่นยำ 99.7 เปอร์เซ็นต์ โดยสามารถทำงานได้อย่างดี แม้ใช้กับคนจากหลายประเทศที่มีลักษณะใบหน้าแตกต่างกัน
คุณ Masaaki Suganuma รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสของ NEC กล่าวว่าสนามกีฬากว่า 40 แห่ง ทั้งสนามกีฬาหลัก ศูนย์ International Broadcasting Center หมู่บ้านโอลิมปิก ตลอดจนนักกีฬา เจ้าหน้าที่โอลิมปิก อาสาสมัคร และบรรดาสื่อมวลชน ต่างต้องใช้ระบบจดจำใบหน้า
NEC ได้นำเทคโนโลยีจดจำใบหน้าไปทดลองใช้ที่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก “ริโอ 2016” ที่ประเทศบราซิล และเทคโนโลยีนี้ยังถูกนำไปใช้ในสถานที่ต่างๆ รวมถึงท่าอากาศยานหลายๆ แห่งอีกด้วย