ผู้สนับสนุนหวังว่าวิธีนี้จะได้รับการอนุมัติรัฐบาลอังกฤษปีหน้า
นักวิทยาศาสตร์พยายามหาทางป้องกันความผิดปกติทางพันธุกรรมในเด็กทารกแรกคลอด วิธีใหม่ที่เรียกว่า 3-parent IVF ที่ใช้ DNA ของพ่อและแม่ของเด็ก รวมกับของผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ในการสร้างตัวอ่อนทารก
ผู้วิจัยเชื่อว่า DNA ของผู้บริจาคที่เป็นบุคคลที่สามที่เป็นหญิง อาจจะช่วยแก้ความบกพร่องที่เกิดขึ้นจากไข่ของผู้เป็นแม่ได้ ผู้สนับสนุนหวังว่าวิธีนี้จะได้รับการอนุมัติรัฐบาลและสามารถทดลองได้กับมนุษย์อย่างถูกต้องทางกฎหมายในอังกฤษ แต่อีกด้านหนึ่งก็เกิดกระแสต่อต้านไม่น้อย
วิธี 3-parent IVF ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อแก้ความผิดปกติที่เกิดจาก หน่วยเคมีชีวภาพในเซลล์ซึ่งสามารถถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกได้ หากหน่วยของเซลล์ดังกล่าวทำงานผิดปกติ จะเป็นเหตุให้มีปัญหาต่อกล้ามเนื้อประสาท และอาจทำให้ทารกเกิดมาพร้อมกับ โรค เช่นลมชัก และภาวะพิการที่ร้ายแรง ที่อาจกระทบการทำงานของหัวใจ การมองเห็น ประสาทสัมผัสของหู การย่อยอาหาร เป็นต้น
กระบวนการของวิธี 3-parent IVF ในเชิงทฤษฎี จะเริ่มด้วยการผสม sperm และ ไข่ ของพ่อและแม่เด็ก และนำไข่ที่ผสมแล้วใส่ลงไปในไข่ที่ถูกทำให้กลวงซึ่งมี DNA ที่แข็งแรงจากผู้หญิงอีกคนหนึ่งผสมอยู่ จากนั้นแพทย์จะนำผลสุดท้ายของการรวม DNA ของทั้งสามคน เข้าไปในมดลูกของหญิงที่เป็นแม่ที่แท้จริง
คุณหมอ Elizabeth Chow แห่งสถาบัน Ambry Genetics ในรัฐ California กล่าวว่า โอกาสของความผิดปกติที่เกิดจากหน่วยเคมีชีวภาพในเซลล์ ที่กล่าวมามีน้อย คืออยู่ระหว่าง 1 ใน 6,000 และ 1 ใน 10,000 อย่างไรก็ตามคุณหมอ Chow กล่าวว่า หากว่ารัฐบาลอังกฤษผ่านกฎหมายรับรองวิธีนี้ ครอบครัวหลายครอบครัวจะได้ประโยชน์อย่างมาก
คุณหมอ Chow กล่าวว่าโรคที่เกิดจากความผิดปกติดังกล่าวเป็นโรคที่ร้ายแรง และขณะนี้มี่วิธีป้องกันและรักษาน้อยมาก เธอคิดว่าหากใช้ให้ถูกวิธี 3-parent IVF จะเปิดศักราชใหม่ให้กับวงการ
คาดว่าทางการอังกฤษจะมีคำตัดสินในเรื่องความปลอดภัยของเทคนิคการแพทย์นี้ในปีหน้า แต่แน่นอนว่ามีนักวิจัยบางคนที่ไม่เห็นด้วย
คุณ David King จากหน่วยงานกำกับดูแลของอังกฤษที่ชื่อ Human Genetics Alert กล่าวว่าวิธีดังกล่าวไม่จำเป็นและเสี่ยงเกินไป เขาเห็นว่า วิธี 3-parent IVF จะกลายเป็นจุดเริ่มต้น ของการออกแบบเด็กทารกที่เหนือกว่าเด็กที่เกิดตามธรรมชาติ ทั้งด้านหน้าตา และสติปัญญา เขามองว่าเราอาจเสี่ยงต่อการเดินทางไปสู่จุดที่เกิดการคลั่งชาติพันธุ์แบบ Nazis และเสริมว่าแทนที่จะเป็นเรื่องมีรัฐบาลเป็นผู้ออกกฎควบคุม ในที่สุดเรื่องนี้จะถูกกำหนดโดยกลไกตลาดแทน ซึ่งเป็นเรื่องน่ากังวล
คุณ King เสริมว่า การเสริมแต่งพันธุกรรมของตัวอ่อนอาจทำให้เด็กที่เกิดมามีความผิดปกติแบบที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ซึ่งจะตกทอดไปสู่คนรุ่นหลังๆ ได้
รายงานโดย Jessica Berman/เรียบเรียงโดยรัตพล อ่อนสนิท
ผู้วิจัยเชื่อว่า DNA ของผู้บริจาคที่เป็นบุคคลที่สามที่เป็นหญิง อาจจะช่วยแก้ความบกพร่องที่เกิดขึ้นจากไข่ของผู้เป็นแม่ได้ ผู้สนับสนุนหวังว่าวิธีนี้จะได้รับการอนุมัติรัฐบาลและสามารถทดลองได้กับมนุษย์อย่างถูกต้องทางกฎหมายในอังกฤษ แต่อีกด้านหนึ่งก็เกิดกระแสต่อต้านไม่น้อย
วิธี 3-parent IVF ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อแก้ความผิดปกติที่เกิดจาก หน่วยเคมีชีวภาพในเซลล์ซึ่งสามารถถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกได้ หากหน่วยของเซลล์ดังกล่าวทำงานผิดปกติ จะเป็นเหตุให้มีปัญหาต่อกล้ามเนื้อประสาท และอาจทำให้ทารกเกิดมาพร้อมกับ โรค เช่นลมชัก และภาวะพิการที่ร้ายแรง ที่อาจกระทบการทำงานของหัวใจ การมองเห็น ประสาทสัมผัสของหู การย่อยอาหาร เป็นต้น
กระบวนการของวิธี 3-parent IVF ในเชิงทฤษฎี จะเริ่มด้วยการผสม sperm และ ไข่ ของพ่อและแม่เด็ก และนำไข่ที่ผสมแล้วใส่ลงไปในไข่ที่ถูกทำให้กลวงซึ่งมี DNA ที่แข็งแรงจากผู้หญิงอีกคนหนึ่งผสมอยู่ จากนั้นแพทย์จะนำผลสุดท้ายของการรวม DNA ของทั้งสามคน เข้าไปในมดลูกของหญิงที่เป็นแม่ที่แท้จริง
คุณหมอ Elizabeth Chow แห่งสถาบัน Ambry Genetics ในรัฐ California กล่าวว่า โอกาสของความผิดปกติที่เกิดจากหน่วยเคมีชีวภาพในเซลล์ ที่กล่าวมามีน้อย คืออยู่ระหว่าง 1 ใน 6,000 และ 1 ใน 10,000 อย่างไรก็ตามคุณหมอ Chow กล่าวว่า หากว่ารัฐบาลอังกฤษผ่านกฎหมายรับรองวิธีนี้ ครอบครัวหลายครอบครัวจะได้ประโยชน์อย่างมาก
คุณหมอ Chow กล่าวว่าโรคที่เกิดจากความผิดปกติดังกล่าวเป็นโรคที่ร้ายแรง และขณะนี้มี่วิธีป้องกันและรักษาน้อยมาก เธอคิดว่าหากใช้ให้ถูกวิธี 3-parent IVF จะเปิดศักราชใหม่ให้กับวงการ
คาดว่าทางการอังกฤษจะมีคำตัดสินในเรื่องความปลอดภัยของเทคนิคการแพทย์นี้ในปีหน้า แต่แน่นอนว่ามีนักวิจัยบางคนที่ไม่เห็นด้วย
คุณ David King จากหน่วยงานกำกับดูแลของอังกฤษที่ชื่อ Human Genetics Alert กล่าวว่าวิธีดังกล่าวไม่จำเป็นและเสี่ยงเกินไป เขาเห็นว่า วิธี 3-parent IVF จะกลายเป็นจุดเริ่มต้น ของการออกแบบเด็กทารกที่เหนือกว่าเด็กที่เกิดตามธรรมชาติ ทั้งด้านหน้าตา และสติปัญญา เขามองว่าเราอาจเสี่ยงต่อการเดินทางไปสู่จุดที่เกิดการคลั่งชาติพันธุ์แบบ Nazis และเสริมว่าแทนที่จะเป็นเรื่องมีรัฐบาลเป็นผู้ออกกฎควบคุม ในที่สุดเรื่องนี้จะถูกกำหนดโดยกลไกตลาดแทน ซึ่งเป็นเรื่องน่ากังวล
คุณ King เสริมว่า การเสริมแต่งพันธุกรรมของตัวอ่อนอาจทำให้เด็กที่เกิดมามีความผิดปกติแบบที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ซึ่งจะตกทอดไปสู่คนรุ่นหลังๆ ได้
รายงานโดย Jessica Berman/เรียบเรียงโดยรัตพล อ่อนสนิท