เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา สายการบินฟินน์แอร์ของฟินแลนด์ระงับเส้นทางบินไปยังเมืองทาร์ทู ประเทศเอสโตเนีย หลังเครื่องบิน 2 ลำของตนไม่สามารถลงจอดได้และต้องบินกลับมาที่ต้นทางเพราะระบบจีพีเอสดับ
Your browser doesn’t support HTML5
ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา เครื่องบินกว่า 46,000 ลำรายงานภาวะจีพีเอสดับขณะบินผ่านแถบตอนเหนือของยุโรป โดยปัญหานี้ยังส่งผลกระทบต่อการนำทางทางทะเลในแถบดังกล่าว รวมทั้งการสื่อสารด้วยระบบเคลื่อนที่และสัญญาณไวไฟ (WiFi) ใน 3 ประเทศกลุ่มนอร์ดิกและบางส่วนของโปแลนด์และนอร์เวย์ด้วย
อังกฤษและเยอรมนีกล่าวว่า รัสเซียพยายามรบกวนระบบจีพีเอส (ระบบการหาตำแหน่งทั่วโลก หรือ GPS - Global Positioning System) มาระยะหนึ่งแล้ว และเอสเนีย ลัตเวียและลิทัวเนียก็กล่าวหากรุงมอสโกว่า จงใจป่วนระบบดังกล่าวด้วยเช่นกัน
รัฐบาลอังกฤษกล่าวว่า เครื่องบินที่มีผู้โดยสารเป็นรัฐมนตรีกลาโหมแกรนท์ แชปป์ส และบินจากโปแลนด์มายังกรุงลอนดอนประสบปัญหาใช้ระบบจีพีเอสและสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่ได้เป็นเวลา 1 ½ ชั่วโมง และ “ถูกบีบให้ต้องใช้วิธีทางเลือกอื่นเพื่อหาพิกัดของตน” ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี เพื่อ 14 มีนาคมของปีนี้
อังกฤษเชื่อว่า รัสเซียคือผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ ตามรายงานของสื่อ ดิ อินดิเพนเดนท์ (The Independent) ที่อ้างแหล่งข่าวจากกระทรวงกลาโหม
และเมื่อวันที่ 4 เมษายน กระทรวงกลาโหมเยอรมนีกล่าวว่า รัสเซีย “มีความน่าจะเป็นสูง” ที่จะเป็นต้นตอของ “การป่วนระบบดาวเทียมนำทางทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง”
มาร์กุส ซาห์คนา รัฐมนตรีต่างประเทศเอสโตเนีย กล่าวว่า รัฐบาลกรุงทาลลินน์มองว่า ภาวะจีพีเอสดับนั้นเป็นการกระทำอันเป็นปรปักษ์ของรัสเซียและเป็นส่วนหนึ่งของ “การทำสงครามผสมผสาน” (hybrid warfare) ของกรุงมอสโกด้วย
“ถ้าหากใครบางคนปิดไฟหน้า(รถ)ของคุณ ขณะที่ คุณกำลังขับรถตอนกลางคืนอยู่ มันจะเป็นอันตราย สถานการณ์ในแคว้นบอลติกใกล้ ๆ ชายแดนรัสเซียก็อันตรายขึ้นเกินกว่าจะไม่สนใจได้” กาบรีเอลิอุส แลนดส์เบอร์จิส รัฐมนตรีต่างประเทศลิทัวเนีย บอกกับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์
นาโต้ ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมว่า รัสเซียกำลังดำเนินการ “ปฏิบัติการผสมผสานทั่วพื้นที่ยูโร-แอตแลนติก” ซึ่งรวมถึง “การก่อวินาศกรรม การใช้ความรุนแรง การแทรกแซงทางไซเบอร์และอิเลกทรอนิกส์ แผนงานกระจายข้อมูลบิดเบือน และปฏิบัติการผสมผสานอื่น ๆ”
หน่วยงานรัฐบาลส่วนใหญ่ ผู้สื่อข่าวเชิงสืบสวนและนักวิจัยที่เน้นใช้แหล่งข้อมูลเปิดแกะรอยระบบรบกวนจีพีเอสของรัสเซียไปถึงเขตปกครองคาลินินกราดซึ่งอยู่ติดกับทะเลบอลติกและชายแดนโปแลนด์และลิทัวเนีย รวมทั้งเป็นที่ตั้งของกองเรือนาวิกโยธินบอลติกของรัสเซียด้วย
รัสเซียไม่ได้ออกมาตอบโต้เรื่องนี้อย่างเป็นทางการ แต่ฝ่าย Polygraph ของวีโอเอ ตรวจพบความเกี่ยวพันระหว่างช่วงวันที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศว่าจะมีการซ้อมรบของกองทัพเรือรัสเซียในทะเลบอลติก และรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ระบบจีพีเอสมีปัญหาในพื้นที่ยุโรปตอนเหนือ
ตัวอย่างของความเกี่ยวพันที่ว่ามี อาทิ
เมื่อวันที่ 25 เมษายน สำนักงานสื่อของกองทัพเรือรัสเซียกล่าวว่า กองเรือบอลติกของตนได้ทำการฝึกซ้อมรบในแคว้นคาลินินกราด เพื่อ “ลองขยายประสบการณ์การรับมือโดรนของศัตรูที่ได้มาระหว่างทำปฏิบัติการพิเศษทางทหาร [คำจำกัดความของเครมลินที่ใช้เรียกสงครามในยูเครน]”
ในคืนนั้นเอง เครื่องบินของสายการบินฟินน์แอร์ที่บินจากกรุงเฮลซิงกิไปยังเอสโตเนีย “ไม่สามารถลงจอดที่สนามบินทาร์ทูได้ เนื่องจากการรบกวนที่ระบบจีพีเอสจากรัสเซีย จนต้องบินกลับมายังเฮลซิงกิ” ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์สาธารณะ Eesti Rahvusringhääling ของเอสโตเนีย
และเมื่อวันที่ 14 มีนาคม สำนักสื่อของกองเรือบอลติกของรัสเซียรายงานว่า ในช่วงที่กองทัพเรือเพิ่งทำการซ้อมรบใกล้ ๆ คาลินินกราดเมื่อเร็ว ๆ นี้ “การทำสงครามอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ปืนไรเฟิลติดตั้งมอเตอร์ได้สกัดระงับการสื่อสารของศัตรูไว้ได้” โดยคำแถลงนี้มีออกมาเพียง 1 วันหลังเที่ยวบินของรัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษรายงานว่า เกิดปัญหาจีพีเอสและการสื่อสารด้วยระบบเคลื่อนที่ดับระหว่างบินจากโปแลนด์มายังอังกฤษ
ในวันที่ 16 มกราคมของปีนี้ กองเรือบอลติกของรัสเซียทำการฝึกอบรมการทำสงครามผสมผสานใกล้ ๆ กับคาลินินกราด ตามรายงานของเว็บไซต์ข่าว Krasnaya Vesna ที่เชี่ยวชาญการรายงานประเด็นเกี่ยวกับงานด้านข่าวกรองของกองทัพรัสเซีย “ในช่วงที่มีการฝึกซอมนี้ ผู้เชี่ยวชาญได้สร้างโดมป้องกันขึ้นมาที่มีรัศมีหลายสิบกิโลเมตรด้วย”
และในวันเดียวกัน เว็บไซต์ติดตามการรบกวนระบบจีพีเอสที่ชื่อ GPSJAM รายงาน “การก่อกวนจีพีเอสระดับสูงในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของโปแลนด์ที่ติดกับแคว้นคาลินินกราดของรัสเซีย” อ้างอิงรายงานจากสถานีข่าว Radio Zet ของโปแลนด์
สิ่งที่ดูค่อนข้างน่าแปลกใจคือ สื่อต่าง ๆ ของรัสเซียก็รายงานข่าวที่มีเนื้อหาสะท้อนสิ่งที่นาโต้เสนอออกมา และยืนยันความเกี่ยวพันระหว่างการฝึกซ้อมรบโดยกองทัพเรือรัสเซียและเหตุการณ์ป่วนระบบจีพีเอสในพื้นที่ตอนเหนือของยุโรป
นอกจากนั้น ผู้คนในแคว้นคาลินินกราดก็ประสบปัญหาสัญญาณถูกป่วนเช่นกัน
“ในฐานะของประชาชนของแคว้นที่ถูกล้อมรอบไปด้วยศัตรู เรายอมรับ” ภาวะยากลำบากที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เช่น หน้าจอทีวีดับจนเหลือแต่ข้อความ “ไม่มีสัญญาณ” ปรากฏอยู่ ตามรายงานของเว็บไซต์ข่าว NIA Kaliningrad เมื่อวันที่ 21 เมษายน ที่อ้างคำประกาศของกระทรวงกลาโหมรัสเซียในการอธิบายว่า การที่สัญญาณการสื่อสารดับนั้นเกิดขึ้นจากการฝึกซ้อมการทำสงครามอิเล็กทรอนิกส์ของกองเรือบอลติกของรัสเซีย
ส่วนสถานีโทรทัศน์ Tsargrad TV ที่ใกล้ชิดกับคริสตจักรออร์โธดอกซ์ของรัสเซียและเครมลิน ก็ออกรายงานอวดอ้างเมื่อวันที่ 22 และ 29 เมษายน ว่า รัสเซีย “ได้ปิดช่องการสื่อสารผ่านดาวเทียมทั้งหมดของรัฐต่าง ๆ ในแถบบอลติก” แล้ว
- ที่มา: ฝ่าย Polygraph วีโอเอ