การโจมตีอย่างต่อเนื่องหลายครั้งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยในสัปดาห์นี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลไทยกับกลุ่มแข็งข้อต่อต้าน ตามการยืนยันของหัวหน้าการเจรจาของรัฐบาลไทยกับวีโอเอ
ขบวนการแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายูปัตตานี หรือ บีอาร์เอ็น (Barisan Revolusi Nasional) ออกมายอมรับทางสื่อสังคมออนไลน์ในวันพฤหัสบดีว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ระเบิดและไฟไหม้ 17 จุดทั้งจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เมื่อวันอังคารและวันพุธ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 7 คน
บีอาร์เอ็นระบุว่า การเลือกเป้าหมายโจมตีนั้นมุ่งไปที่สัญลักษณ์ของทุนนิยมในประเทศไทยซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวการทำลายธุรกิจของชุมชนในท้องถิ่น เช่น ร้านสะดวกซื้อ และปั๊มน้ำมันต่าง ๆ
การโจมตีครั้งใหญ่ในลักษณะนี้มิได้เกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว ในขณะที่แทบไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัฐบาลไทยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นหลังจากที่ทั้งสองฝ่ายตกลงเริ่มการเจรจาเพื่อจัดทำข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้งเมื่อต้นปีนี้
SEE ALSO: วิเคราะห์: ความหวังครั้งใหม่ในการเจรจาสันติภาพชายแดนใต้พลเอกวัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยืนยันกับวีโอเอว่า "การโจมตีครั้งล่าสุดนี้จะไม่กระทบกระบวนการเจรจา ไม่ว่าสถานการณ์ในพื้นที่จะเป็นอย่างไร เราจะยึดมั่นเดินหน้าแนวทางสันติภาพต่อไปตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อนำความสงบสุขและความกลมเกลียวคืนสู่พื้นที่นี้"
พลเอกวัลลภ ระบุด้วยว่า "เจรจารอบต่อไปกำหนดไว้ในอีกประมาณ 1-2 เดือนจากนี้" และข้อเสนอจัดทำข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มบีอาร์เอ็นเป็นเวลา 3-4 เดือนก็ยังคงอยู่ในวาระของการเจรจา
อย่างไรก็ตาม หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประณามการโจมตีในสัปดาห์นี้ว่า ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อบรรยากาศของสันติภาพและความเชื่อมั่นของผู้คนในกระบวนการสร้างความสงบที่เดินหน้ามาอย่างต่อเนื่องด้วย
ทางด้านอาจารย์ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี นักวิจัยประจำสถาบันวิจัยความขัดแย้งและความหลากหลายทางวัฒนธรรมภาคใต้ (CSCD) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 5 ปี ซึ่งเชื่อว่าเป็นการส่งสัญญาณของบีอาร์เอ็นไปยังรัฐบาลไทยว่า การเจรจาสันติภาพคืบหน้าไปอย่างเชื่องช้าเกินไป
"มีการถกเถียงและความเห็นที่แตกต่างกันมากระหว่างทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะสามารถแก้ไขได้ผ่านการเจรจาซึ่งต้องใช้เวลา... ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณจากกลุ่มบีอาร์เอ็นว่าให้เร่งกระบวนการนี้โดยเร็ว"
อาจารย์ศรีสมภพ เชื่อว่า การที่กลุ่มบีอาร์เอ็นโจมตีเป้าหมายที่เป็นของประชาชน คือการตอกย้ำด้วยว่า สิ่งที่กลุ่มนี้ต้องการยังคงไม่บรรลุตามเป้า และว่า "หลังจากความรุนแรงลดลงอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ทำให้ผู้คนต่างรู้สึกว่ากลุ่มบีอาร์เอ็นได้หายไปแล้ว... แต่การโจมตีในสัปดาห์นี้คือการเตือนสติว่า สถานการณ์ยังคงไม่ปกติ และมีหลายอย่างที่ต้องแก้ไขจัดการเพื่อบรรเทาความขัดแย้งนี้"
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าววีโอเอได้ติดต่อไปยังกลุ่มบีอาร์เอ็นเพื่อสอบถามความคิดเห็น แต่ยังมิได้รับการตอบกลับแต่อย่างใด
- ที่มา: วีโอเอ