ผลกระทบธรุกิจท่องเที่ยวไทย หลัง'โคโรนาไวรัส' ระบาด

People walk with face masks outside the Grand Palace in Bangkok on January 27, 2020. - Thailand has detected eight Coronavirus cases so far -- three of whom are receiving treatment in hospital and five of whom have been discharged, according to a statemen

ทางการไทยยังคงแสดงถึงความมั่นใจอย่างเต็มที่ในการควบคุมการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะพบจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลายรายก็ตาม ขณะที่ยังมีการเปิดรับเที่ยวบินตรงจากเมืองจีนเข้ามาอย่างต่อเนื่องรวมยังคงมีเที่ยวบินปลายทางที่เมืองอู่ฮั่นซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดในขณะนี้ด้วย

Your browser doesn’t support HTML5

Thai China Coronavirus

ไทยถือเป็นปลายทางยอดนิยมอันดับต้นๆของนักท่องเที่ยวชาวจีนเฉพาะปีที่แล้ว มีชาวจีนเกือบ 11 ล้านคน เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว และมีส่วนช่วยกระตุ้นอุตสากรรมท่องเที่ยวในเมืองไทยให้คึกคักตลอดหลายปีที่ผ่านมา

แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์การระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่กำลังสร้างความกังวลให้กับบรรดาผู้คนในภาคบริการท่องเที่ยว

Your browser doesn’t support HTML5

ผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยกับผลกระทบ 'โคโรนาไวรัส' ระบาด




ฟาฎีละห์ เจ๊ะอูเซ็ง พนักงานต้อนรับ บริษัทนำเที่ยวที่หาดอ่าวนาง จังหวัดกระบี่ บอกว่า พนักงานต้องหาหน้ากากป้องกันมาใส่เพื่อความปลอดภัยและความสบายใจระหว่างทำงาน ที่ต้องพบปะผู้คน

"ป้องกันไว้ก่อนค่ะ คือบางคน หรือ ฝรั่งคนเห็นเราใส่แมสก์แบบนี้เขาจะไม่กล้าเข้าเลยนะ เขาจะเข้าใจว่าเราเป็นคนป่วยคนหนึ่ง แต่ตอนนี้คือเริ่มปรับเปลี่ยน คือเข้าใจว่าที่เราใส่หน้ากากคือป้องกัน ไม่ใช่ว่าเราป่วย คือตอนนี้เวลาเจอลูกค้าจีนก็โอเคแล้วค่ะ ไม่ปฏิเสธคือเราต้องคุยเพราะเราทำงานบริการ" ฟาฎีละห์ เจ๊ะอูเซ็ง กล่าวกับวีโอเอ

A Thai tour guide (R) escorts Chinese tourists wearing face masks near the Grand Palace in Bangkok on January 27, 2020. - Thailand has detected eight Coronavirus cases so far -- three of whom are receiving treatment in hospital and five of whom have been

แม้ทางการจีนจะประกาศห้ามผู้คนจากเมืองอู่ฮั่นและเมืองใกล้เคียงออกนอกพื้นทีอย่างเด็ดขาด และไม่มีเที่ยวบินตรงจากอู่ฮั่นมาเมืองไทยนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ แต่สายการบินบางแห่งก็ยังคงให้บริการเที่ยวบินขาเข้าพาผู้โดยสารชาวจีนจากเมืองไทยมุ่งหน้ากลับเมืองอู่ฮั่นตามปกติ

จาง หลง มัคคุเทศก์ จากเมืองอู่ฮั่น เตรียมมุ่งหน้ากลับบ้านด้วยความเป็นห่วงครอบครัวแม้ทราบดีว่าอาจต้องเผชิญกับสภาวะการระบาดที่กำลังวิกฤต

“ผมอยากกลับไปอยู่ที่บ้าน เพราะค่อนข้างกังวลกับสถานการณ์วิกฤตโรคระบาดที่กำลังเกิดขึ้น เช่นเดียวกับสมาชิกในครอบครัว”

แม้จะพบผู้ติดเชื้อที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกวันในประเทศ และค้นพบว่าผู้ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้อาจจะยังไม่แสดงอาการใดๆนานถึง 14 วัน แต่บุคลากรและหน่วยงานด้านสาธารณสุขของไทย โดยเฉพาะทาง นพ. วิทยา วัฒนเรืองโกวิท นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ ที่ดูแลพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ้งของไทย ยืนยันและแสดงความมั่นใจว่าสถานการณ์วิกฤตจากโรคระบาดยังคงอยู่ในการควบคุมได้

Coronavirus

"สถานการณ์อยู่ในระดับที่ 2 จาก 5 แต่ถ้าหากว่ามีการติดเชื้อในประเทศไทย เป็นรายที่เพิ่มขึ้นจากคนสู่คนเราก็คงยกระดับมากขึ้นกว่านี้ แต่ ณ วันนี้ รายงานสถานการณ์ยังไม่ถึงขนาดนั้น" นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกระบี่ ให้ข้อมูลกับ 'วีโอเอ'

สุนาฟ ศรีหมัด มัคคุเทศก์ชาวไทยที่เคยผ่านสถานการณ์คล้ายกันในการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่มรณะ หรือ ซาร์ส เมื่อปีพุทธศักราช 2546 มาแล้ว บอกว่า การตระหนักถึงความปลอดภัยด้านสุขภาพควรจะมาก่อนสิ่งอื่นใด

"ทางเจ้าของกิจการเอง ก็คงจะเข้าใจเหตุการณ์นี่้ เพราะถ้าเกิดว่าเราไปคำนึงถึงเรื่องรายได้ของประเทศ รายได้ของผู้ประกอบการ หรือรายได้ของตัวฉันเอง มันก็คงจะไม่ถูกต้องแน่นอน เพราะมันคงจะต้องเกิดเรื่องร้ายๆขึ้นมาแน่นอน "

ทางการไทยยังไม่มีนโยบายที่จะปิดรับเที่ยวบินจากประเทศจีน โดยยังมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยหลายพันคนต่อวัน แต่ทางการไทยยืนยันว่ามีการคัดกรองและตรวจสอบอย่างเคร่งครัดจากเจ้าหน้าที่

ขณะที่ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณะสุขของไทย ยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในประเทศไทยแล้ว 14 ราย โดยได้ส่งตัวเข้ารับการรักษาจนอาการดีขึ้นและกลับบ้านได้แล้ว 5 ราย ขณะเดียวกันยังมีรายงานว่าพบผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคและต้องเฝ้าระวังในช่วงที่ผ่านมา (ถึงวันที่ 29 ม.ค.)มี ทั้งหมด 158 ราย ผู้ป่วยที่มีอาการเข้าข่ายดังกล่าวจะยังอยู่ภายใต้การดูแลและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ในจำนวนนี้มี 62 รายที่อาการหายดีและออกจากโรงพยาบาลแล้ว