จับตาผู้นำพม่าเยือนไทยกับความคืบหน้าโครงการอุตสาหกรรมครบวงจรมูลค่าหลายแสนล้านที่เมืองทวาย

  • Ron Corben
ไทยและพม่าเตรียมหารือความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกและเขตอุตสาหกรรมที่เมืองทวายที่นักธุรกิจไทยเตรียมทุ่มงบเกือบ 3 แสนล้านลงทุนในพม่า
ประเด็นการก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกทวาย และเขตอุตสาหกรรม ในบริเวณชายฝั่งทะเลอันดามันในประเทศพม่า จะได้รับการจับตาอย่างใกล้ชิด ในระหว่างการพบปะของผู้นำพม่าและไทย ในระหว่างการเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการของพลเอกเต็ง เส่ง ประธานาธิบดีสหภาพพม่า ปลายเดือนกรกฎาคมนี้

คุณชัชชาติ สิทธิพันธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์กับ วีโอเอ ว่า การเจรจาแบบทวิภาคีของผู้นำทั้งสองจะมุ่งประเด็นไปในเรื่องการพัฒนาที่เป็นโครงการยุทธศาสตร์สำคัญระหว่างไทยและพม่า โดยคาดหวังว่าจะมีญี่ปุ่นเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญ และขณะนี้ไทยได้ตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ของโครงการฯซึ่งถือเป็นโครงการสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ และจะนำเรื่องนี้หารือกับพม่าและญี่ปุ่นซึ่งทั้ง 3 ประเทศจะทำงานร่วมกันเพื่อให้โครงการลุล่วงไปให้ได้

โครงการก่อสร้างทวาย คอมเพล็กซ์ ในประเทศพม่า ห่างจากชายแดนไทยด้านจังหวัดกาญจนบุรีเพียงประมาณ 160 กิโลเมตร อยู่ในการพัฒนาของกลุ่มบริษัท อิตาเลียน-ไทย ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดของไทย

โครงการก่อสร้างคอมเพล็กซ์ระดับเม็กกะโปรเจคนี้จะครอบคลุมพื้นที่กว่า 250 ตารางกิโลเมตรติดแนวชายฝั่งทะเลอันดามันในประเทศพม่า โดยวางแผนก่อสร้างโรงานอุตสาหกรรมครบวงจร ทั้งโรงงานถลุงเหล็ก โรงงานไฟฟ้า โรงงานด้านปิโตรเคมีแบบครบวงจร และโรงงานผลิตปุ๋ย คาดว่าหากสำเร็จเต็มรูปแบบจะมีมูลค่ามากกว่า 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งโครงการท่าเรือน้ำลึกแห่งนี้จะสามารถย่นระยะเวลาถึง 3 วันในการลำเลียงสินค้าเข้าและออกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไม่จำเป็นต้องเดินเรืออ้อมทางช่องแคบมะละกาอีกต่อไป

คุณสมเจตน์ ทิณพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทวาย ดิเวลลอปเมนท์ ในเครือของบริษัทอิตาเลียน-ไทย ผู้พัฒนาโครงการแสดงความมั่นใจและตั้งเป้าหมายว่าการก่อสร้างในขั้นแรกจะแล้วเสร็จภายในปีพุทธศักราช 2559 และมั่นใจว่ารัฐบาลพม่าจะให้การสนับสนุนโครงการนี้อย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้อุปกรณ์ก่อสร้างโรงงานส่วนหลักจัดส่งไปติดตั้งเรียบร้อยแล้ว และเชื่อว่าการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าถือเป็นประโยชน์ที่ทุกฝ่ายต้องการห้โครงการนี้สำเร็จ และเร่งเดินหน้าอย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม การเดินหน้าโครงการเม็กกะโปรเจคนี้อาจะไม่เป็นไปตามที่คาด ดังจะเห็นได้จากการตัดสินใจหยุดการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังถ่านหินขนาด 4 พันเมกกะวัตต์ ที่เมืองทวาย เป็นการชั่วคราวของทางการพม่า หลังจากถูกต่อต้านจากกลุ่มอนุรักษ์ที่เรียกร้องให้มีการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของชาวบ้านในท้องถิ่น

คุณ Paul Sein Twe โฆษกของกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในพม่า กล่าวว่า พม่ายังไม่มีความพร้อมสำหรับโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ แม้หลายอย่างในพม่าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วแต่ในระดับของรากฐานนั้นยังไม่มีความพร้อม เช่นสาธารณูโภคขั้นพื้นฐานต่างๆ ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนั้นก็เพื่อเตือนนักลงทุนทั้งหลายให้ระมัดระวังในการลงทุนในพม่าและควรมีความรอบคอบ ไม่เร่งรัดเดินหน้ามากเกินไป เพราะความเปราะบางของการเมืองในพม่าที่พร้อมจะมีความเปลี่ยนแปลงได้เสมอ

แม้ก่อนหน้านี้รัฐบาลพม่าได้บรรลุข้อตกลงเจราจาหยุดยิงกับชนกลุ่มน้อยกระเหรี่ยง ที่ต่อสู้กับรัฐบาลพม่ามายาวนานและมีอิทธิพลในแถบเมืองทวายเป็นผลสำเร็จ แต่นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมชาวพม่าคนนี้ก็ยังกังวลว่าการเกิดความขัดแย้งอาจจะปะทุขึ้นมาได้ตลอดเวลาโดนเฉพาะในประเด็นความขัดแย้งในการกว้านซื้อที่ดิน และการจ่ายค่าชดเชยต่อชุมชนที่ล้มเหลว

พินิจการณ์ ตุลาชม วีโอเอ ภาคภาษาไทย กรุงวอชิงตัน