อุตสาหกรรมอาหารทะเลไทยปฏิเสธคำกล่าวหาของกลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนและสื่อตะวันตกเรื่องแรงงานทาส

thai-fishering

อุตสาหกรรมอาหารทะเลของไทยทำรายได้มากกว่าปีละ 7 พันล้านดอลล่าร์ แต่กลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนและสื่อตะวันตกกล่าวหาว่า อุตสาหกรรมสำคัญของไทยรายนี้ใช้แรงงานอพยพที่ถูกนักค้ามนุษย์นำมาขาย อย่างทารุณโหดร้าย

เมื่อเร็วๆนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐจัดประเทศไทยไว้ในบัญชีรายชื่อประเทศที่มีการค้ามนุษย์อย่างเลวร้ายที่สุด รายงานของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเรื่องการค้ามนุษย์ที่เพิ่งเผยแพร่ออกมานี้ กล่าวว่า 17 – 57% ของแรงงานในอุตสาหกรรมอาหารทะเลไทย ถูกบังคับให้ทำงาน

แต่บุคคลในวงการอุตสาหกรรมดังกล่าวของไทย บอกปัดตัวเลขที่ว่านี้ และแสดงความกังขาต่อแหล่งที่มาและความน่าเชื่อถือของข้อมูลด้วย

สมาคมอุตสาหกรรมปลาทูน่าของประเทศไทย ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปีที่แล้ว กล่าวว่า ได้เปิดโอกาสให้มีการตรวจสอบจากภายนอก เพื่อรับประกันว่ามีการปฏิบัติต่อแรงงานอย่างมีจริยธรรม ในขณะที่อุตสาหกรรมกุ้งของไทยแถลงยืนยันเมื่อวันอังคารว่า ไม่มีแรงงานทาสเกี่ยวข้องในสายโซ่อุปทานกุ้ง

ในขณะเดียวกัน นายผนิศวร ชำนาญเวช อดีตนายกสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งของไทยกล่าวว่า จะต้องแก้ไขความคิดเห็นของผู้บริโภคและจะต้องให้ข้อเท็จจริง

อย่างไรก็ตาม คำกล่าวหาของกลุ่มและสื่อชาติตะวันตกกำลังส่งผลกระทบ ธุรกิจขายปลีกระดับนานาชาติตัดความสัมพันธ์กับผู้จัดหาที่เกี่ยวข้องกับคำกล่าวหาเรื่องแรงงานทาส และผู้ซื้อต่างประเทศมีแผนจะร่วมมือกับกลุ่ม NGOs เพื่อพยายามรับประกันว่า ไม่มีการบังคับใช้แรงงานในสายโซ่อุปทานของตน