การต่อสู้ระหว่างรัฐบาลทหารเมียนมาและฝ่ายต่อต้านยังคงดำเนินต่อไปในพื้นที่เมียวดี ด้านฝ่ายความมั่นคงไทยกวดขันตรวจตราความปลอดภัยพื้นที่ชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก ในช่วงเวลาที่ประชาชนเมียนมาหนีเข้ามาหลบภัยสงครามในประเทศไทย
ผู้สื่อข่าววีโอเอภาคภาษาพม่า รายงานจากพื้นที่ อ.แม่สอดในวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่นว่า การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปในพื้นที่ซึ่งเป็นชุมทางการค้าชายแดนไทย-เมียนมาแห่งนี้ ส่งผลให้มีประชาชนหลายคนหลบหนีเข้ามาในไทย เนื่องจากกลัวการอยู่ในพื้นที่เป้าหมายของกระสุนปืนใหญ่
โฆษกของกองกำลังกองทัพปลดปล่อยชาติกะเหรี่ยงและกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (KNLA/PDF) กล่าวกับวีโอเอภาคภาษาพม่าเมื่อวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่นว่า กองทัพรัฐบาลทหารพยายามจะส่งกำลังสนับสนุนจากเมืองพะอันเข้ามาปกป้องฐานที่มั่นสุดท้ายในพื้นที่ ได้แก่กองพัน 275 แต่ก็เป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากกองกำลังต่อต้านได้เข้าควบคุมพื้นที่สะพานมิตรภาพและทางหลวงเอเชียไว้แล้ว
“เครื่องบินเจ็ททิ้งระเบิดกระจายไปทั้งคืน และพวกเขา (รัฐบาลทหาร) ก็ยิงต่อสู้ทั้งคืน ตอนนี้เหลือเพียงกองพันทหาร 275 เท่านั้นที่ยังหลงเหลืออยู่” โฆษก KNLA/PDF กล่าว
Your browser doesn’t support HTML5
ฝ่ายต่อต้าน-กองทัพเมียนมา รบเดือดสมรภูมิใกล้ชายแดนไทย
การสู้รบในพื้นที่ชายแดนเกิดขึ้นหลังจากกองทัพฝ่ายต่อต้าน ซึ่งประกอบด้วยกองกำลังชาติพันธุ์กะเหรี่ยงและกองกำลัง PDF ซึ่งเป็นพันธมิตร เข้าโจมตีพื้นที่ใกล้เมืองเมียวดีตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนที่การต่อสู้จะค่อย ๆ ขยายวงออกมา
รอยเตอร์รายงานในวันพุธว่า ถนนในเมืองของ อ.แม่สอด จ.ตาก มีการลาดตระเวนของรถกองทัพบกไทยหลายคันที่ติดอาวุธปืนกล โดยประชาชนในพื้นที่เล่าว่า ได้ยินเสียงการสู้รบและระเบิดลอยมาจากเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ที่อยู่ไม่ไกลออกไป
ชาวเมียนมาใน อ.แม่สอด กล่าวกับรอยเตอร์โดยไม่ประสงค์ออกนามว่า “ความปลอดภัยในเมืองนั้นเข้มข้นกว่าเมื่อก่อน เพื่อนบ้านของเราถูกทหารไทยตรวจขณะที่เดินไปใกล้พื้นที่ชายแดน”
องค์กรภาคประชาสังคม Karen Peace Support Network รายงานว่าการต่อสู้ที่ปะทุขึ้น ส่งผลให้มีผู้พลัดถิ่นอย่างน้อย 2,000 คนในเมียนมา
กองทัพเมียนมา ที่ขึ้นสู่อำนาจด้วยการรัฐประหารเมื่อปี 2021 กำลังเผชิญกับบททดสอบครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เข้าครองประเทศครั้งแรกเมื่อ 8 ทศวรรษที่แล้ว หลังกองกำลังชาติพันธุ์และฝ่ายต่อต้าน ยึดครองพื้นที่สำคัญตามชายแดนจีน อินเดียและบังกลาเทศได้ ในขณะที่ทรัพยากรของตนก็ลดน้อยถอยลงจนต้องประกาศใช้กฎหมายเกณฑ์กำลังพล
ทั้งนี้ โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมาไม่ตอบรับการขอความเห็นจากรอยเตอร์
ข้อมูลบางส่วนจากรอยเตอร์