รองปธน.ไต้หวัน 'วิลเลียม ไล' ลั่นไม่กลัวการขู่จากจีน ขณะเเวะนิวยอร์ก

  • VOA

รองประธานาธิบดีไต้หวัน วิลเลี่ยม ไล โบกมือทักทายนักข่าวขณะเดินทางไปยังปารากวัย วันที่ 12 ส.ค. 2566

รองประธานาธิบดีไต้หวัน วิลเลียม ไล กล่าวที่นครนิวยอร์กเมื่อวันอาทิตย์ว่า รัฐบาลของตนจะไม่รู้สึกกลัวเกรงต่อการขู่จากจีน

วิลเลียม ไล เเสดงความเห็นเรื่องนี้ขณะงานร่วมเลี้ยงอาหารกลางวัน หนึ่งวันหลังจากที่เดินทางถึงนิวยอร์กซึ่งเป็นจุดผ่านของการเยือนประเทศปารากวัย เพื่อร่วมพิธีรับตำแหน่งของประธานาธิบดีคนใหม่ของปารากวัย

ไล กล่าวกับผู้สนับสนุนตนว่า "ขอบอกอีกครั้ง... ไม่ว่าการขู่จะยิ่งใหญ่แค่ไหนจากฝ่ายเผด็จการต่อไต้หวัน เราจะไม่กลัวและไม่ถอย เราจะเชิดชูค่านิยมประชาธิปไตยและเสรีภาพ"

วิลเลียม ไล ผู้จบการศึกษาปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด คือตัวเต็งตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันคนใหม่ ซึ่งเคยเรียกตนเองว่าเป็น "คนทำงานเพื่ออิสรภาพของไต้หวัน"

อย่างไรก็ตาม ในการหาเสียงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี เขาเน้นย้ำว่าตนมิได้ต้องการเปลี่ยนสถานะของไต้หวันจากที่เป็นอยู่ และยังแสดงความประสงค์ที่จะเป็นมิตรกับจีนแผ่นดินใหญ่

SEE ALSO: จีนประณามรองปธน.ไต้หวัน แวะเยือนนิวยอร์ก เตือนตอบโต้อย่างหนัก

ก่อนหน้านี้ กระทรวงการต่างประเทศจีนมีคำขู่และคำแถลงต่อต้านการแวะเปลี่ยนเครื่องที่นครนิวยอร์กของไล ในขณะที่เขากำลังเดินทางมุ่งหน้าไปยังปารากวัย

แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า "จีนคัดค้านและประณามอย่างรุนแรงต่อการตัดสินใจของสหรัฐฯ ที่จัดการให้มีการแวะเปลี่ยนเครื่องดังกล่าว" พร้อมยืนยันจุดยืนของรัฐบาลกรุงปักกิ่งที่ต่อต้าน "การติดต่ออย่างเป็นทางการของรัฐบาลสหรัฐฯ กับไต้หวันทุกรูปแบบ"

ทางการจีนกล่าวด้วยว่า "รองประธานาธิบดีไลยังคงดื้อดึงสนับสนุนจุดยืนแบ่งแยกดินแดนเพื่อ 'อิสรภาพของไต้หวัน' และยังถือเป็น 'ตัวปัญหามาตลอด' "

ตั้งเเต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา จีนได้ส่งเครื่องบินทหาร 79 ลำ และเรือ 23 ลำ วนเวียนอยู่รอบไต้หวัน ในจำนวนดังกล่าว มี 25 ลำที่ข้ามเส้นกึ่งกลางของช่องเเคบไต้หวัน โดยบางส่วนเดินทางเข้าเขตแสดงตนทางอากาศของไต้หวันบริเวณตะวันตกเฉียงใต้และตะวันออกเฉียงใต้

ไลมีกำหนดเยือนปารากวัยเป็นเวลา 7 วัน และเขาจะเดินทางกลับไต้หวันโดยจะแวะสหรัฐฯ อีกครั้งที่นครซานฟรานซิสโก

สหรัฐฯ และไต้หวันกล่าวเช่นเดียวกันว่า การเดินทางเเวะเปลี่ยนเครื่องที่สหรัฐฯ ​ของรองประธานาธิบดีไต้หวันเป็นเรื่องปกติสำหรับเจ้าหน้าที่จากไต้หวัน ในทางกลับกันจีนระบุว่าการทำเช่นนี้ถือเป็นการ "แอบเเวะ" ซึ่งรัฐบาลปักกิ่งเห็นว่าไม่ควรเกิดขึ้น

  • ที่มา: วีโอเอ