สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กองทัพอากาศไต้หวันได้ส่งเครื่องบินรบไปบินสกัดและขับไล่เครื่องบินของจีน 9 ลำที่รุกล้ำเข้าไปในเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันตนเองทางอากาศของไต้หวัน ในวันเดียวกับที่รัสเซียบุกโจมตียูเครน จากการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมไต้หวัน
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เครื่องบินจีนได้บินเข้าไปในเขตน่านฟ้าของไต้หวันหลายครั้ง โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 23 มกราคมปีนี้ที่มีเครื่องบินจีนบินเข้าไปในเขตดังกล่าวถึง 39 ลำในคราวเดียว
สำหรับครั้งล่าสุดในวันพฤหัสบดี กระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยว่า มีเครื่องบินไอพ่น J-16 จำนวนแปดลำ และเครื่องบินแบบ Y-8 อีกหนึ่งลำ บินเหนือบริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะพราทาสของไต้หวัน ทางเหนือของทะเลจีนใต้ ซึ่งทางไต้หวันได้ส่งเครื่องบินไอพ่นไปสกัดและติดตามจนเครื่องบินจีนเหล่านั้นออกไปจากน่านฟ้าของไต้หวัน
ทางกระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุด้วยว่า ได้ติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในยูเครนอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางความกังวลว่าจีนอาจสร้างสถานการณ์ลักษณะเดียวกันขึ้นมาเพื่อบุกรุกไต้หวัน
ที่ผ่านมา ทางการจีนไม่เคยปฏิเสธว่าอาจมีการใช้กำลังทหารกับไต้หวันเพื่อนำไต้หวันให้กลับมาอยู่ภายใต้จีนแผ่นดินใหญ่ พร้อมทั้งประณามสหรัฐฯ ที่สนับสนุนไต้หันในด้านการทูต และขายอาวุธให้กับไต้หวัน
ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศไต้หวัน โจเซฟ หวู กล่าวในสัปดาห์นี้ว่า รัฐบาลไต้หวันยังคงมุ่งพัฒนาศักยภาพทางทหารที่มีอยู่ รวมทั้งขอความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ เพื่อให้รอดพ้นจากการตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีจากจีนแผ่นดินใหญ่
รมต.หวู กล่าวว่า จีนจะรู้ว่าต้องชดใช้มากมายแค่ไหนหากเดินหน้าสร้างความขัดแย้งกับไต้หวัน ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศของไต้หวันยังได้หารือกับอดีตรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ มาร์ค เอสเปอร์ เกี่ยวกับความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ต่อไต้หวัน ผ่านทางการขายอาวุธ การแลกเปลี่ยนทางทหารและข่าวกรอง รวมทั้งการแสดงเสรีภาพในการเดินเรือบริเวณช่องแคบไต้หวันด้วย