ประชาชนในสวิตเซอร์แลนด์มีมติสนับสนุนร่างกฎหมายที่จะอนุญาตให้มีการสมรสระหว่างคู่สมรสเพศเดียวกันได้ ขณะที่ ผู้ที่ถูกวางตัวว่าจะได้ขึ้นมาเป็นผู้นำญี่ปุ่นคนถัดไปแสดงจุดยืนสนับสนุนการผ่านร่างกฎหมายเดียวกันนี้ในอนาตค ตามรายงานของสำนักข่าว รอยเตอร์
รายงานข่าวระบุว่า ผลการทำประชามติทั่วประเทศในสวิตเซอร์แลนด์ในวันอาทิตย์ชี้ว่า ประชาชนสัดส่วน 64.1 เปอร์เซ็นต์เห็นชอบให้การสมรสเพศเดียวกันเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายรวมทั้งและการให้สิทธิ์คู่สมรสที่เป็นเพศเดียวกันสามารถรับบุตรบุญธรรมได้ด้วย
องค์การนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International) ออกแถลงการณ์ที่ระบุว่า การเปิดโอกาสให้มีการสมรสโดยการจดทะเบียนระหว่างคู่สมรสมที่เป็นเพศเดียวกันนั้น ถือเป็น “หลักชัยของความเท่าเทียมกัน”
อย่างไรก็ตาม โมนิกา รุกเกอร์ สมาชิกพรรค Swiss People’s Party ซึ่งเป็นพรรคการเมืองฝ่ายขวา รู้สึกผิดหวังกับผลการลงมติครั้งนี้ และกล่าวว่า ประเด็นนี้เป็นเรื่องของสวัสดิการเด็ก และการมติเห็นชอบเช่นนี้ ทำให้เด็กและผู้เป็นพ่อทั้งหลาย กลายเป็นผู้สูญเสียแทน
ทั้งนี้ คาริน เคลเลอร์-ซุทเตอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสวิตเซอร์แลนด์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า กฎหมายนี้น่าจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กรกฎาคมของปีหน้า
ส่วนที่ญี่ปุ่น ทาโร่ โคโนะ รัฐมนตรีที่รับผิดชอบโครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของประเทศ และเป็น 1 ใน 4 ตัวเก็งเข้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค Liberal Democratic Party ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล กล่าวในวันอาทิตย์ว่า ตนนั้นสนับสนุนการสมรสระหว่างคู่สมรสเพศเดียวกัน และคิดว่า น่าจะมีการหยิบยกประเด็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องขึ้นมาหารือกันในสภาด้วย
(ที่มา: สำนักข่าว รอยเตอร์)