รัสเซียไม่สามารถเดินหน้ารุกเมืองคาร์คิฟได้ หลังจากที่สหรัฐฯ อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธบางส่วนที่สหรัฐฯ จัดหาให้ ในการโจมตีเป้าหมายในดินแดนของรัสเซีย จากการเปิดเผยของที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทำเนียบขาว
เจค ซัลลิแวน กล่าวกับรายการ “Face the Nation” ของสถานีซีบีเอส ในวันอาทิตย์ ระบุว่า "ขณะนี้คาร์คิฟยังคงตกอยู่ในความเสี่ยง แต่รัสเซียไม่สามารถเดินหน้ารุกภาคพื้นดินได้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา"
ซัลลิแวน เปิดเผยว่า สหรัฐฯ ได้อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธบางอย่างที่สหรัฐฯ เป็นผู้จัดหาให้เพื่อใช้ในการป้องกันเขตปกครองคาร์คิฟจากการรุกรานของรัสเซีย แม้มีความกังวลว่าการที่ยูเครนใช้อาวุธดังกล่าวอาจเป็นการลากองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) เข้าสู่การทำสงครามกับรัสเซียด้วยก็ตาม
ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของทำเนียบขาว กล่าวว่า ประธาธิบดีโจ ไบเดน เชื่อว่ายูเครนควรสามารถใช้อาวุธที่ชาติพันธมิตรจัดหาให้ ในการโจมตีตอบโต้เข้าไปในดินแดนของรัสเซียได้ด้วยเช่นกัน
โดยหลังจากที่สหรัฐฯ อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธดังกล่าว ทั้งฝรั่งเศสและเยอรมนีก็เร่ิมทำตามแนวทางของสหรัฐฯ ด้วย แม้ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน เตือนว่า ท่าทีดังกล่าวของสหรัฐฯ และองค์การนาโต้ อาจทำให้รัสเซียต้องส่งอาวุธแบบเดียวกันไปให้แก่ประเทศที่อยู่ในรัศมีที่สามารถโจมตีสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรในยุโรปได้
Your browser doesn’t support HTML5
มาตรการอายัดทรัพย์สินรัสเซีย
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศระหว่างเดินทางเยือนฝรั่งเศสในวันอาทิตย์ว่า ตนและผู้นำฝรั่งเศสเห็นพ้องกันเรื่องการใช้กำไรที่ได้จากมาตรการอายัดทรัพย์สินของรัสเซีย เพื่อช่วยเหลือยูเครนทำสงครามกับกองทัพรัสเซีย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรกลุ่ม จี7 กำลังเดินหน้าในเรื่องนี้ แม้จะมีเสียงคัดค้านจากบางประเทศก็ตาม ขณะที่รัสเซียชี้ว่า การนำกำไรจากทรัพย์สินที่ถูกอายัดไปใช้นั้นถือเป็นการขโมย
ทั้งนี้ ทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัดไว้นั้นสามารถสร้างผลกำไรได้ราว 2,700 - 3,800 ล้านดอลลาร์ต่อปี
90 ประเทศร่วมประชุมสันติภาพยูเครน
สวิตเซอร์แลนด์ กล่าวในวันจันทร์ว่า 90 ประเทศและองค์กรต่าง ๆ จะร่วมการประชุมสันติภาพยูเครนเป็นเวลาสองวัน เริ่มตั้งแต่วันเสาร์นี้ โดยครึ่งหนึ่งเป็นประเทศในยุโรป
แถลงการณ์ของรัฐบาลสวิสซึ่งเป็นเจ้าภาพการประชุม ระบุว่า การประชุมครั้งนี้มุ่งเน้นหารือแนวทางสร้างสันติภาพในยูเครนอย่างครอบคลุมในระยะยาวภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรของสหประชาชาติ ตลอดจนหารือกรอบการทำงานเรื่องการจัดทำแผนสันติภาพที่มีรัสเซียและยูเครนเข้าร่วมด้วย
อย่างไรก็ตาม รัสเซียปฏิเสธที่จะส่งผู้แทนเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ โดยกล่าวว่าจะเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพก็ต่อเมื่อมีการนำเรื่องที่รัสเซียสามารถยึดครองพื้นที่บางส่วนมาจากยูเครนหลังปฏิบัติการทางทหารที่เริ่มขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 มาร่วมพิจารณาด้วย
แต่ทางประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ยืนยันว่า ส่วนหนึ่งของข้อตกลงสันติภาพที่จะเกิดขึ้นคือ รัสเซียต้องถอนทหารทั้งหมดออกจากดินแดนของยูเครน
- ข้อมูลบางส่วนจากเอพี เอฟพี และรอยเตอร์