ศาลฎีกาสหรัฐฯวินิจฉัยให้เดินหน้าคำสั่งฝ่ายบริหาร กรณีห้ามพลเมือง 6 ประเทศเข้าสหรัฐฯบางส่วน

People leave the Supreme Court in Washington, June 26, 2017, as justices issued their final rulings for the term.

ศาลฎีกาสหรัฐฯพิจารณารับฟังคำฟ้องคัดค้านเรื่องการใช้อำนาจผู้นำฝ่ายบริหารของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ประกาศห้ามการเดินทางเข้าสหรัฐฯของพลเมืองจาก 6 ประเทศที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม เป็นเวลา 90 วัน และให้ระงับโครงการรับผู้ลี้ภัยจากประเทศเหล่านี้เป็นเวลา 120 วัน ก่อนที่จะถูกศาลชั้นต้นและศาลอุทรณ์ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จากอย่างน้อย 2 รัฐมีพิจารณาให้ระงับการบังคับใช้คำสั่งฝ่ายบริหารดังกล่าวฯ

ในวันจันทร์ ที่ 26 มิ.ย. ตามเวลาสหรัฐฯ ศาลสูงสุด หรือ ศาลฎีกาสหรัฐฯ แถลงว่า จะรับคำฟ้องดังกล่าวเข้าพิจารณาในช่วงปลายปีนี้ โดยคำวินิจฉัยของศาลฎีกาจะถือเป็นที่สิ้นสุด

นอกจากนี้ศาลฎีกาของสหรัฐฯ ยังมีคำสั่งให้มีผลบังคับใช้คำสั่งบางส่วนของฝ่ายบริหารเกี่ยวกับเรื่องนี้ ด้แต่กำหนดเงื่อนไขให้มีข้อยกเว้นสำหรับชาวต่างชาติในคำสั่งดังกล่าวที่พิสูจน์ได้ว่ามีความสัมพันธ์อย่างแท้จริง หรือมีคำอ้างที่น่าเชื่อถือที่มีความสัมพันธ์อย่างแท้จริงกับบุคคลหรือองค์การในสหรัฐฯ ซึ่งคำสั่งของ ปธน.ทรัมป์ ดังกล่าวจะไม่มีผลบังคับใช้กับบุคคลเหล่านี้

'ความสัมพันธ์อย่างแท้จริง' ดังกล่าวหมายถึง บุคคลที่มีความสัมพันธ์ในครอบครัว หรือทางสายเลือดความสัมพันธ์ในฐานะนักศึกษาที่จะเข้าศึกษาต่อในสหรัฐฯ และความสัมพันธ์ในฐานะการเข้ามาทำงานในสหรัฐฯ โดยมีนายจ้างเสนองานในสหรัฐฯให้

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า เห็นได้ชัดว่าการตัดสินใจของศาลฎีกาสหรัฐฯที่คำสั่้งฝ่ายบริหารมีผลบังคับใช้ แม้จะในบางส่วนก็ตาม ถือเป็นชัยชนะอย่างแท้จริง