ราคาน้ำตาลพุ่งทั่วโลก หลังผลผลิตในเอเชียตกต่ำเพราะสภาพอากาศ

พ่อค้าในกรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย วางเรียงถุงน้ำตาลหน้าร้าน เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2023

ราคาน้ำตาลในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น 55% ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา สืบเนื่องจากผลผลิตการเกษตรที่ตกต่ำเพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ตามรายงานของสื่อเอพี

ปัจจุบัน ราคาซื้อขายน้ำตาลอยู่ที่ระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2011 หลังจากที่ปริมาณน้ำตาลในตลาดโลกลดลงเพราะอากาศแห้งแล้งในเอเชีย โดยเฉพาะอินเดียและไทยซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่อันดับสองและสามตามลำดับ

ถือเป็นปัจจัยลบล่าสุดต่อปัญหาขาดแคลนอาหารในประเทศกำลังพัฒนาต่าง ๆ ซึ่งเกิดทั้งจากภัยธรรมชาติ และสงครามในหลายพื้นที่ของโลก

องค์การอาหารและการเกษตรสหประชาชาติ หรือ FAO (Food and Agriculture Organization) คาดการณ์ว่า ผลผลิตน้ำตาลโลกจะลดลง 2% ในฤดูกาล 2023-24 คือเป็นปริมาณราว 3.5 ล้านตัน ขณะที่ปริมาณน้ำตาลสำรองทั่วโลกลดลงไปอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2009

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผลผลิตน้ำตาลตกตต่ำ คือ ปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงลักษณะภูมิอากาศโลก และก่อให้เกิดภัยธรรมชาติหลายอย่าง เช่น น้ำท่วมและภัยแล้ง

ที่อินเดีย ภัยแล้งเมื่อช่วงกลางปีและผลผลิตอ้อยที่ลดลง ส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำตาลลดลง 8% ในปีนี้ อ้างอิงจากสมาคมโรงน้ำตาลอินเดีย และทำให้อินเดียต้องจำกัดการส่งออกน้ำตาลเพื่อรองรับการบริโภคในประเทศ

ส่วนที่ประเทศไทย นายนราธิป อนันตสุข หัวหน้าสำนักงานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปรากฏการณ์เอลนีโญส่งผลกระทบทั้งต่อปริมาณและคุณภาพของผลผลิตอ้อย โดยคาดว่าจะมีอ้อยถูกส่งเข้าโรงน้ำตาลเพียง 76 ล้านตันในปีเก็บเกี่ยวหน้า เทียบกับ 93 ล้านตันในปีนี้

ด้านกระทรวงการเกษตรสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า ผลผลิตน้ำตาลของไทยในเดือนตุลาคมลดลง 15%

รัฐบาลไทยได้นำมาตรการควบคุมราคาปลีกน้ำตาลมาใช้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ซึ่งนายนราธิปกล่าวว่า จะทำให้เกษตรกรจำนวนมากลดการปลูกอ้อยลง

เคลลี กูการี นักวิเคราะห์แห่ง Gro Intelligence เชื่อว่า บราซิล ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดในโลก จะสามารถเพิ่มผลผลิตน้ำตาลได้มากขึ้นราว 20% ในปีหน้า และจะสามารถอุดช่องว่างส่วนที่หายไปจากเอเชียได้ในช่วงปลายปี 2024

FILE - Abba Usman sells granulated sugar at his shop inside a market in Abuja, Nigeria, Oct. 27, 2023.

อย่างไรก็ตาม FAO ชี้ว่า ช่วงไม่กี่เดือนจากนี้คือช่วงที่น่ากังวลที่สุด เพราะจะมีหลายประเทศที่ได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากราคาที่สูงขึ้น โดยเฉพาะประเทศยากจนในแอฟริกาที่ต้องนำเข้าน้ำตาลเพื่อใช้ในการทำอาหารต่าง ๆ

โจเซฟ กลอเบอร์ นักวิชาการอาวุโสแห่งสถาบันวิจัยนโยบายอาหารระหว่างประเทศ (International Food Policy Research Institute) กล่าวว่า ปัจจุบัน โลกมีปริมาณน้ำตาลสำรองเหลืออยู่ไม่ถึง 68 วัน ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดตั้งแต่ปี 2010

กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว อินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำตาลรายใหญ่อันดับสองของโลก ต้องลดปริมาณน้ำตาลสำรองลงเพื่อชดเชยกับราคาน้ำตาลในประเทศที่เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี

ด้านนักเศรษฐศาสตร์ของ FAO ชี้ว่า เมื่อต้องใช้เงินสดสำรองเพิ่มขึ้นในการซื้อน้ำตาล ก็หมายความว่าประเทศต่าง ๆ จะมีเงินสดในการซื้อน้ำมันและสินค้าจำเป็นอื่น ๆ ลดลงตามไปด้วย

  • ที่มา: เอพี