การศึกษาระบุ การฆาตกรรมในสหรัฐฯ ปีที่แล้ว พุ่งสูงขึ้น

A NYC coroner carries an empty gurney at the scene of an alleged homicide in the Brooklyn borough of New York, U.S., Sept. 7, 2020.

ผลการศึกษาชิ้นใหม่ระบุว่า การฆาตกรรมในสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นมากเมื่อปีที่แล้ว โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะการระบาดของโรคโควิด-19 และความอยุติธรรมทางเชื้อชาติ

สถาบัน National Commission on Crime and COVID-19 and Criminal Justice เผยแพร่ผลการศึกษานี้เมื่อวันจันทร์ โดยนักวิจัยด้านอาชญวิทยาของมหาวิทยาลัยมิสซูรี เซนต์หลุยส์ วิเคราะห์อัตราการเกิดอาชญากรรมใน 34 เมืองตัวอย่างที่มีขนาดต่างกัน ตั้งแต่มหานครนิวยอร์กไปจนถึงเมืองนอร์ฟอล์ค รัฐเวอร์จิเนีย

ผลการศึกษาชิ้นนี้พบว่า มีอัตราการฆาตกรรมสูงขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ในปี ค.ศ. 2020 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1,268 คน มีการเกิดอาชญากรรมเพิ่มขึ้นใน 29 เมืองจาก 34 เมือง เช่น อัตราการเกิดอาชญากรรมในเมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน เพิ่มขึ้น 85 เปอร์เซ็นต์ ในเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน เพิ่มขึ้น 63 เปอร์เซ็นต์ ในนครชิคาโกเพิ่มขึ้น 55 เปอร์เซ็นต์ และในมหานครนิวยอร์กเพิ่มขึ้น 43 เปอร์เซ็นต์

ผลการศึกษายังระบุด้วยว่า ยังมีการทำร้ายร่างกายจนเหยื่อได้รับบาดเจ็บสาหัสและการทำร้ายร่างกายด้วยปืนเพิ่มขึ้นด้วย


หนึ่งในหัวหน้าทีมวิจัยนี้ บอกกับสำนักข่าว The Associated Press ว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ตำรวจประจำอยู่ตามท้องถนนน้อยลงทั่วประเทศ ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้มีการฆาตกรรมสูงขึ้น

แม้ว่าตำรวจจะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ แต่พวกเขาก็ต้องรักษาระยะห่างทางสังคม ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติการในระยะกระชั้นชิด และอาจลดการเกิดอาชญากรรมได้

ผลการศึกษานี้พบว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อกลุ่มประชากรเปราะบาง ทำให้บุคคลที่อยู่ในความเสี่ยง ต้องเผชิญกับความเครียดทางกายภาพ ทางจิตใจ ทางอารมณ์ และทางการเงินมากยิ่งขึ้น

นักวิจัยยังระบุด้วยว่า เชื้อโคโรนาไวรัสยังทำให้ตำรวจ ศาล โรงพยาบาล และหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านความรุนแรงอื่นๆ ทำงานอย่างตึงมือมากขึ้น พวกเขายังแนะนำว่า การควบคุมโรคระบาด การเพิ่มความเชื่อมั่นในตำรวจและระบบยุติธรรม และการใช้ยุทธศาสตร์ปรามปรามความรุนแรง เป็นสิ่งจำเป็นต่อการรักษาความสงบเรียบร้อยในเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ

ทั้งนี้ นักวิจัยได้รวบรวมสถิติการเกิดอาชญากรรมจากฐานข้อมูลออนไลน์ของกรมตำรวจในแต่ละเมือง โดยข้อมูลอาจได้รับการตรวจสอบอีกครั้ง และการจำแนกประเภทของความรุนแรงอาจแตกต่างกันในแต่ละเมือง