นกกระสายุโรปจำนวนมากขึ้นเลิกอพยพ ปักหลักหากินตามกองขยะแทน

A stork sits on a stop sign near Immerath, western Germany, on October 15, 2013.

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการเจริญเติบโตของเขตนาคร กำลังส่งผลกระทบต่อนกกระสาทางภาคใต้ของยุโรป

Your browser doesn’t support HTML5

Storks Migration

ตามแหล่งฝังกลบขยะขนาดใหญ่ในสเปนและโปรตุเกส มักจะเห็นนกกระสาได้ทั่วไป พวกมันมักมาเฝ้ารอเศษเนื้อเศษปลา หรืออาหารเหลือทิ้งประเภท Junk Food เช่น พิซซ่า และแฮมเบอเกอร์ ซึ่งติดมากับรถบรรทุกขยะเป็นประจำทุกวัน

กลิ่นเหม็นที่ตลบอบอวลไปทั่วบริเวณมิได้สร้างความรำคาญให้นกกระสาเหล่านี้ พวกมันพากันสร้างรังอยู่ไม่ไกลจากกองขยะ และเลี้ยงลูกนกด้วยเศษอาหารที่ได้มาจากกองขยะนั้น

ปกติแล้วนกกระสาจำพวกนี้หรือที่เรียกว่า Stork มักจะย้ายถิ่นฐานไปยังแอฟริกาในช่วงฤดูหนาว แต่หลังจากที่ปักหลักอยู่ตามกองขยะ พบว่านกกระสาจำนวนมากไม่บินตามพวกพ้องกลับไปแอฟริกาในฤดูหนาวอีกต่อไป

คุณ Aldina Franco นักอนุรักษ์ธรรมชาติแห่ง University of East Anglia ในอังกฤษ ผู้ติดตามพฤติกรรมการย้ายถิ่นฐานตามฤดูกาลของนกกระสามาหลายสิบปี ชี้ว่ารูปแบบการอพยพย้ายถิ่นของนกกระสาเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อราว 30 ปีที่แล้ว กล่าวคือนกบางตัวจะปักหลักอยู่ในยุโรปตลอดทั้งปี จากนั้นจำนวนนกที่ไม่บินกลับแอฟริกาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ปัจจุบันคาดว่า เฉพาะในโปรตุเกส มีนกกระสาที่ไม่บินไปแอฟริกาในช่วงฤดูหนาวมากกว่า 14,000 ตัว

แต่ไม่ใช่นกกระสาทุกตัวที่ทำรังอาศัยอยู่ตามกองขยะหรือหลุมฝังกลบขยะอย่างถาวร นกบางตัวที่ปักหลักอยู่ในยุโรปทั้งปีอาจอาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำต่างๆ เนื่องเพราะสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยทางใต้ของยุโรปมีความอบอุ่นมากขึ้น และนั่นหมายถึงสัตว์ที่เป็นอาหารของนกกระสาก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นด้วย Act 2

นักอนุรักษ์ Aldina Franco ระบุว่าเมื่ออากาศอบอุ่นขึ้น แมลงจำพวกตั๊กแตน สัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็ก และปลาบางชนิดก็มีจำนวนเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน ปริมาณขยะอาหารที่ถูกทิ้งตามแหล่งกลบฝังต่างๆ ก็มีจำนวนมากขึ้น ถือเป็นแหล่งอาหารที่เกินพอสำหรับนกกระสาที่ไม่ต้องการย้ายถิ่นลงใต้อีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม เวลานี้รัฐบาลโปรตุเกสกำลังผุดโครงการสร้างโรงงานกำจัดขยะมูลฝอยทับแหล่งกลบฝังต่างๆ ในอีกไม่กี่ปี ซึ่งคุณ Franco ต้องการศึกษาต่อไปว่าหลังจากนั้นนกกระสากินอาหารขยะเหล่านี้จะปรับตัวอย่างไร

รายงานชิ้นนี้ตีพิมพ์อยู่ในวารสาร Movement Ecology ฉบับล่าสุด

(ผู้สื่อข่าว Rosanne Skirble รายงาน / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)