เชนร้านกาแฟสตาร์บัคส์ ประกาศสั่งให้พนักงานทุกคนในสหรัฐฯ ต้องได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบโดส หรือ เข้ารับการตรวจหาการติดเชื้อรายสัปดาห์ ตามคำสั่งของรัฐบาลกรุงวอชิงตัน มิฉะนั้นจะไม่สามารถเข้ามาทำงานได้ ตามรายงานของสำนักข่าว รอยเตอร์
สตาร์บัคส์เผยแพร่การปรับปรุงนโยบายการทำงานล่าสุดนี้ออกมาในวันจันทร์ตามเวลาในสหรัฐฯ โดยอ้างอิงคำสั่งของ สำนักงานอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (Occupational Safety and Health Administration – OSHA) ที่ประกาศออกมาว่า ตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ธุรกิจและหน่วยงานขนาดใหญ่ที่มีพนักงานเป็นจำนวนมาก ต้องบังคับให้มีการฉีดวัคซีนครบโดสหรือทำการตรวจหาการติดเชื้อโควิด-19 รายสัปดาห์ เนื่องจากการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนทั่วประเทศในเวลานี้
แหล่งข่าวภายในสตาร์บัคส์ บอกกับผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ว่า บริษัทยังไม่มีแผนที่จะสั่งปิดร้านสาขาเป็นจำนวนมากเนื่องจากการระบาดของโอมิครอน ดังเช่นที่เคยปฏิบัติเมื่อช่วงครึ่งแรกของปี ค.ศ. 2020 ที่ภาวะระบาดใหญ่ของโควิด-19 บีบให้ต้องปิดร้านสาขาอย่างน้อยครึ่งหนึ่งทั่วสหรัฐฯ เป็นการชั่วคราว และเปิดเฉพาะจุดที่สามารถให้บริการแบบไดร์ฟทรู (Drive Thru) หรือรับกลับไปทานนอกร้านเท่านั้น
รายงานข่าวระบุว่า สตาร์บัคส์นั้นจ้างพนักงานอยู่ราว 220,000 คนในสหรัฐฯ และทุกคนจะต้องแสดงหลักฐานยืนยันสถานะการฉีดวัคซีนของตนภายในวันที่ 10 มกราคม และผู้ที่เลือกที่จะไม่ฉีดยา จะต้องทำการตรวจหาเชื้อทุกสัปดาห์ โดยจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดหาชุดตรวจที่ OSHA อนุมัติให้ใช้งานด้วยตนเองและนำส่งผลตรวจให้เรียบร้อยด้วย