สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (International Federation of Red Cross and Red Crescent Societies) ได้กระตุ้นให้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มการจัดหาวัคซีนโควิดเพื่อป้องกันการติดเชื้อและเสียชีวิตจากโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นสถิติใหม่
นายอเล็กซานเดอร์ แมทเธโอ ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียแปซิฟิกของสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ แถลงว่า การระบาดรอบล่าสุดจากไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และไม่มีทีท่าว่าจะจบลงเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลายประเทศในอาเซียน รวมทั้ง เวียดนาม ไทย และมาเลเซีย รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นสถิติใหม่
ขณะที่อัตราการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศ โดยข้อมูลของรอยเตอร์ระบุว่า อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ซึ่งมีประชากรมากที่สุดในอาเซียน เพิ่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนไปเพียง 10-12% จากประชากรทั้งหมด ขณะที่เวียดนามฉีดไปยังไม่ถึง 2%
นายแมทเธโอ กล่าวว่า ในระยะสั้น ประเทศพัฒนาแล้วควรยื่นมือช่วยเหลือด้วยการจัดหาวัคซีนโควิดส่วนเกินให้กับประเทศในอาเซียน ส่วนในระยะยาว รัฐบาลและบริษัทวัคซีนต่าง ๆ จำเป็นต้องแบ่งปันเทคโนโลยีในการผลิตวัคซีนโควิดให้แก่ประเทศเหล่านี้ด้วย
ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียแปซิฟิกของสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ ย้ำด้วยว่า ช่วงไม่กี่สัปดาห์จากนี้ถือเป็นช่วงสำคัญสำหรับการขยายการตรวจหาเชื้อ การฉีดวัคซีนและการรักษาผู้ป่วยโควิด ในทุกพื้นที่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และควรตั้งเป้าหมายว่าต้องฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนในภูมิภาคนี้ได้ถึง 70-80%