ฝ่ายค้านเกาหลีใต้ เตรียมยื่นถอดถอนประธานาธิบดียูน ซุก ยอล เมื่อวันพฤหัสบดี จากความพยายามประกาศกฎอัยการศึกในช่วงสั้น ๆ ขณะที่ตำรวจโสมขาวเตรียมสืบสวนผู้นำเกาหลีใต้และรัฐมนตรีหลายรายจากข้อกล่าวหาก่อกบฎทรยศชาติ ตามรายงานของรอยเตอร์
เมื่อช่วงดึกวันอังคาร ปธน.ยูน ประกาศกฎอัยการศึกเพื่อหวังควบรวมอำนาจ สั่งห้ามการเคลื่อนไหวทางการเมือง และปิดกั้นการทำงานของสื่อมวลชน แต่การเคลื่อนไหวของผู้นำเกาหลีใต้ได้จุดกระแสขุ่นเคืองให้ประชาชนลงถนน และสร้างความกังวลให้กับพันธมิตรนานาชาติของรัฐบาลกรุงโซลถึงเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศ
สมาชิกสภาจากพรรคประชาธิปไตย (Democratic Party) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักของประเทศ เตรียมลงมติถอดถอนปธน.ยูนออกจากตำแหน่ง ในเวลา 19.00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ตามการเปิดเผยของโฆษกพรรค
Your browser doesn’t support HTML5
ขณะที่พรรคพลังประชาชน (People Power Party) ซึ่งเป็นฝ่ายรัฐบาล เสียงแตกในประเด็นนี้ แต่ระบุว่าจะคัดค้านการถอดถอนผู้นำเกาหลีใต้ ที่มีเวลาดำรงตำแหน่งเหลืออีกเพียง 2 ปี จากวาระ 5 ปี
ทั้งนี้ พรรคประชาธิปไตยต้องการเสียงอย่างน้อย 8 เสียงจากฝ่ายรัฐบาลที่มี 108 เสียง เพื่อให้ได้เสียงสนับสนุน 2 ใน 3 ในสภาเพื่อเดินหน้าถอดถอนผู้นำโสมขาว
ในวันพฤหัสบดี ปธน.ยูน ที่กำลังต่อสู้เพื่ออนาคตทางการเมืองในตอนนี้ ได้รับเรื่องลาออกของรัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ คิม ยอง-ฮยอน ผู้แนะนำให้เขาประกาศกฎอัยการศึก และแต่งตั้งทูตเกาหลีใต้ประจำซาอุดีอาระเบีย ชเว บยอง-ฮยุค มารับตำแหน่งนี้แทน
รัฐมนตรีกิจการภายใน เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการทหาร และสมาชิกพรรคฝ่ายค้านที่ผลักดันการถอดถอนปธน.ยูนออกจากตำแหน่ง ยืนยันตรงกันว่า รมต.คิม ซึ่งเพิ่งยื่นลาออก แนะนำให้ผู้นำเกาหลีใต้ประกาศกฎอัยการศึก
SEE ALSO: ส่องวิบากกรรม 'ยูน ซุก ยอล' แห่งเกาหลีใต้หลังประกาศกฎอัยการศึกด้านรองรัฐมนตรีกลาโหม คิม ซอน-โฮ กล่าวระหว่างการให้ข้อมูลกับสภาเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ไม่ทราบเกี่ยวกับการใช้กฎอัยการศึกจนกระทั่งมีการประกาศออกมาในค่ำวันอังคาร และรมต.กลาโหมยังได้สั่งการให้ทหารบุกอาคารรัฐสภาอีกด้วย พร้อมเสริมว่าตนคัดค้านกฎอัยการศึก และกล่าวขอโทษพร้อมแสดงความรับผิดชอบที่ล้มเหลวในการป้องกันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันอังคาร
นอกจากนี้ สื่อยอนฮัพรายงานด้วยว่า ผู้บัญชาการทหารเกาหลีใต้ยื่นใบลาออกเช่นกัน
หัวหน้าฝ่ายสืบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้ ยืนยันในระหว่างการขึ้นให้ข้อมูลกับสภาเกาหลีใต้ว่า กำลังสืบสวนข้อกล่าวหาก่อกบฎทรยศชาติ และอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการประกาศกฎอัยการศึก ที่ทางพรรคฝ่ายค้านและนักเคลื่อนไหวยื่นฟ้องปธน.ยูน รัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายใน และรัฐมนตรีกลาโหมที่เพิ่งยื่นใบลาออกไป โดยตอนนี้อดีตรมต.กลาโหม ถูกห้ามเดินทางออกนอกประเทศระหว่างกระบวนการสืบสวน อ้างอิงจากสื่อ YTN
นานาชาติกังวลถึงความไร้เสถียรภาพของเกาหลีใต้
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชิเงรุ อิชิบะ กล่าวว่า สถานการณ์ความมั่นคงของญี่ปุ่นอาจเปลี่ยนแปลง จากความไร้เสถียรภาพของรัฐบาลกรุงโซล และความก้าวร้าวของเกาหลีเหนือที่เพิ่มขึ้น
แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ จากฝั่งรัฐบาลกรุงเปียงยางออกมาเกี่ยวกับประเด็นดราม่าทางการเมืองในเกาหลีใต้
เมื่อวันพุธ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน กล่าวกับรอยเตอร์ว่า สหรัฐฯ ไม่ทราบเกี่ยวกับการประกาศกฎอัยการศึกของปธน.ยูน ขณะที่ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้ พล.อ. พอล ลากาเมรา เตือนทหารอเมริกันให้ระมัดระวัง หลีกเลี่ยงพื้นที่การชุมนุม และให้เหล่าทหารแจ้งผู้บังคับบัญชาเกี่ยวแผนการเดินทางในกรณีที่ “มีเหตุไม่คาดฝัน” เกิดขึ้น
ทั้งนี้ สหรัฐฯ มีทหาร 28,500 นาย ประจำการที่เกาหลีใต้ หลังสงครามเกาหลีเมื่อปี 1950-1953
Your browser doesn’t support HTML5
ทั้งนี้ ปธน.ยูน ซึ่งคว้าชัยเลือกตั้งที่ขับเคี่ยวอย่างมากในเกาหลีใต้เมื่อปี 2022 ได้รับการยอมรับจากผู้นำชาติตะวันตก ในฐานะของพันธมิตรสหรัฐฯ ในความพยายามผนึกกำลังของประเทศประชาธิปไตยในการต่อสู้กับระบอบเผด็จการในจีน รัสเซีย และพื้นที่อื่น ๆ ในโลก แต่ในเกาหลีใต้แล้ว ปธน.ยูนถูกกล่าวหาว่าใช้มาตรการแข็งกร้าวในการบริหารประเทศ จากการปราบปรามการประท้วง และเรียกผู้วิจารณ์ว่าเป็น “เผด็จการคอมมิวนิสต์และผู้ต่อต้านรัฐ” อีกด้วย
แผนการถอดถอนผู้นำโสมขาว มีขึ้นหลังค่ำคืนอันวุ่นวายที่ปธน.ยูนประกาศกฎอัยการศึกและส่งทหารเข้าไปในสภาที่กรุงโซล ก่อนจะยกเลิกในอีกไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น และหากได้รับมติสนับสนุน ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้จะต้องพิจารณาว่าจะเดินหน้าตามคำร้องถอดถอนผู้นำยูนหรือไม่ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานานถึง 180 วัน
ในระหว่างที่ ปธน.ยูนถูกระงับบทบาทหน้าที่ไป นายกรัฐมนตรีฮัน ดุก-ซู จะเข้ามารับหน้าที่ผู้นำเกาหลีใต้แทน แต่หากปธน.ยูน ตัดสินใจลาออกหรือถูกถอดถอนจากตำแหน่ง จะต้องมีการจัดเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน
ผู้นำยูนแห่งเกาหลีใต้ เผชิญกับแรงกดดันทางการเมือง จากคะแนนนิยมที่ตกต่ำในระดับ 20% มาหลายเดือน และฝ่ายค้านกุมเสียงข้างมากเกือบ 2 ใน 3 ของสภา มาตั้งแต่การเลือกตั้งเมื่อเดือนเมษายน
- ที่มา: รอยเตอร์