ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ เตรียมที่จะประกาศการขึ้นภาษีสินค้าหลายอย่างในจีน โดยคาดว่าจะมีผลสัปดาห์หน้าอย่างเร็วที่สุด โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ภาคส่วนที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า อ้างอิงตามแหล่งข่าวสองรายที่เกี่ยวข้องใกล้ชิดกับเรื่องดังกล่าว ตามการรายงานของรอยเตอร์
แหล่งข่าวรายหนึ่งให้ข้อมูลกับรอยเตอร์ว่า การประกาศอาจจะมีขึ้นอย่างเร็วที่สุดในวันอังคารหน้า โดยคาดว่าจะเป็นการคงอัตราภาษีส่วนใหญ่เอาไว้ และการประกาศอาจจะเจอกับแรงต้าน
แหล่งข่าวอีกรายกล่าวว่าจะมีการตั้งกำแพงภาษีให้กับสินค้าเซมิคอนดักเตอร์ และอุปกรณ์สำหรับพลังงานแสงอาทิตย์
ไบเดน ผู้นำสังกัดพรรคเดโมแครตที่กำลังเข้าสู่เส้นทางเลือกตั้งเพื่อดำรงตำแหน่งในสมัยที่สอง มีท่าทีในด้านภาษีครั้งนี้ต่างไปจากแนวทางของคู่แข่งจากพรรครีพับลิกันอย่างโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าแบบยกแผง ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวมองว่ารุนแรงเกินไปและอาจทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ
แหล่งข่าวรายหนึ่ง และอีกหนึ่งบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ระบุว่า ผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ ได้มีข้อเสนอแนะไปยังทำเนียบขาวในเรื่องการขึ้นภาษีตั้งแต่หลายสัปดาห์ที่แล้ว แต่การประกาศจากประธานาธิบดีถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากมีการถกเถียงกันเป็นการภายใน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กที่รายงานเรื่องนี้เป็นแห่งแรก ระบุว่า ทำเนียบขาวและผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเรื่องนี้
รอยเตอร์รายงานว่า มาตรการทางภาษีครั้งนี้อาจทำให้จีนออกมาตรการตอบโต้ ในช่วงที่สองชาติมหาอำนาจที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกมีบรรยากาศความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดขึ้น เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในครั้งที่ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนเมื่อดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
ไบเดนกล่าวว่า ไม่ต้องการให้เกิดสงครามการค้ากับจีน แม้จะบอกว่าทั้งสองประเทศเข้าสู่กระบวนทัศน์การแข่งขันรูปแบบใหม่
ผู้สมัครชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งสองคน มีท่าทีด้านการค้าระหว่างประเทศที่ขยับออกห่างจากฉันทามติการค้าเสรีที่เคยเกิดขึ้นในกรุงวอชิงตันในอดีต ซึ่งตามมาด้วยการเข้าร่วมกับองค์การการค้าโลก (WTO) ของจีนในปี 2001
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่งระบุว่า เมื่อปี 2022 ไบเดนได้ทำการทบทวนนโยบายเกี่ยวกับการค้าของทรัมป์ และเรียกร้องให้มีการเพิ่มภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์จำพวกโลหะและอลูมิเนียมในอัตราที่สูงขึ้น แต่ประเภทของผลิตภัณฑ์นั้นถูกกำหนดอย่างจำกัด
นอกจากนั้น ไบเดนยังสั่งให้มีการตรวจสอบแนวทางการค้าของจีนในภาคส่วนโลจิสติกส์ การต่อเรือและการเดินเรือ ซึ่งอาจนำไปสู่การตอบโต้จากรัฐบาลกรุงปักกิ่ง นอกจากนั้น ยังไปกดดันให้เม็กซิโกไม่ให้ขายเหล็กจากจีนมาให้สหรัฐฯ ทางอ้อมด้วย
รัฐบาลกรุงปักกิ่งระบุว่ากำแพงภาษีเป็นสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ และจะส่งผลกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และของโลก
- ที่มา: รอยเตอร์