กองทัพซูดาน “ยึดอำนาจปธน.” หลังครองอำนาจมา 30 ปี

Sudanese demonstrators cheer as they drive towards a military vehicle, celebrating the ouster of President Omar al-Bashir, near the Defense Ministry in Khartoum, Sudan, April 11, 2019.

ประธานาธิบดีโอมาร์ อัล บาชีร์ ที่ดำรงตำแหน่งผู้นำซูดานมาร่วม 30 ปี ถูกกองทัพซูดานยึดอำนาจและปลดออกจากตำแหน่ง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากประชาชนชาวซูดานออกมาประท้วงขับไล่มาร่วม 4 เดือน

นายอาวัด โมฮัมหมัด อาเหม็ด อิบนูฟ (Awad Mohamed Ahmed Ibn Auf) รัฐมนตรีกลาโหมซูดาน แถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ว่ากองทัพซูดานได้โค่นอำนาจประธานาธิบดีอัล บาชีร์ พร้อมทั้งจับกุมนายอัล บาชีร์ไว้ในที่ปลอดภัย และประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 3 เดือนหลังจากโค่นอำนาจ และว่าซูดานจะอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านการปกครองโดยสภากองทัพไปอีก 2 ปี

ด้านแหล่งข่าวฝ่ายกองทัพซูดาน เปิดเผยกับวีโอเอว่า นายอัล บาชีร์ วัย 75 ปี ถูกกักบริเวณอยู่ในบ้านมาก่อนแล้ว

หลังการโค่นอำนาจประธานาธิบดีอัล บาชีร์ ที่ครองอำนาจมาร่วม 30 ปี ประชาชนหลายหมื่นคนออกมาเดินขบวนตามท้องถนนในกรุงคาร์ทูม เมืองหลวงแห่งซูดาน ในวันพฤหัสบดี เพื่อเฉลิมฉลองการพ้นจากอำนาจของผู้นำซูดาน แต่หลังจากนั้นในวันเดียวกัน ผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งเริ่มแสดงท่าทีต่อต้านแนวคิดการบริหารประเทศโดยสภากองทัพซูดานที่เข้ายึดอำนาจ

ด้านสถานทูตสหรัฐฯ ออกประกาศคำแนะนำสำหรับการท่องเที่ยวของพลเมืองอเมริกัน ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ประท้วงในซูดานเพื่อความปลอดภัย

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีอัล บาชีร์ เข้ามาปกครองซูดานผ่านการรัฐประหาร เมื่อปี พ.ศ. 2532 และปกครองประเทศมายาวนาน 30 ปี เขาเป็นที่ต้องการตัวของศาลอาญาระหว่างประเทศ ด้วยข้อหาอาชญากรสงครามและฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ขณะที่ประชาชนชาวซูดานออกมาประท้วงขับไล่นายอัล บาชีร์ ตั้งแต่ปลายปีก่อน เนื่องจากปัญหาราคาอาหารแพง ราคาน้ำมันพุ่งสูง และการขาดแคลนสกุลเงินต่างประเทศ

(เรียบเรียงรายงานจากผู้สื่อข่าว Naba Mohideen จากกรุงคาร์ทูม ซูดาน)