ผลวิจัยพบโจรสลัดโซมาเลียเป็นต้นเหตุให้นานาชาติใช้งบประมาณเพิ่มหลายพันล้านเหรียญต่อปี

  • Michael Onyiego
    พินิจการณ์ ตุลาชม

money

ปัญหาการถูกโจมตีจากกลุ่มโจรสลัดโซมาเลียในแถบมหาสมุทรอินเดียยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องและไม่มีทีท่าจะยุติล่าสุดมีงานวิจัยชิ้นใหม่ที่ประมาณการณ์ว่าโจรสลัดโซมาเลียเป็นต้นเหตุให้นานาชาติต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นหลายพันล้านเหรียญสหรัฐในแต่ละปี

รายงานจากองค์กร Think tank ซึ่งเป็นองค์กรวิชาการภาคเอกชนของสหรัฐ พยายามประเมินมูลค่าทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาโจรสลัดที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกพบว่าในปีพุทธศักราช 2553 ที่ผ่านมา นานาประเทศต้องเสียค่าใช้จ่ายรวมกันมากกว่า 7 พัน ถึง 1 หมื่น 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ

องค์การด้านวิชาการ One Earth Future Think tank ที่มีสำนักงานใหญ่ที่อยู่รัฐโคโรลาโด เปิดเผยการประมาณค่าใช้จ่ายสำหรับพื้นที่แถบมหาสมุทรครอบคลุมตั้งแต่แอฟริกาตะวันตกไปจนถึงช่องแคบมะละกาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แสดงให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่หรือประมาณร้อยละ 95 ล้วนแต่ใช้ไปเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกปล้นโดยกลุ่มโจรสลัดโซมาเลียทั้งสิ้น

รายงานจาก สำนักข่าว AP ระบุว่า ขณะนี้ยังมีเรืออย่างน้อย 28 ลำ และลูกเรือกว่า 660 คนถูกควบคุมตัวไว้ในโซมาเลียเพื่อเรียกค่าไถ่ และมีเรือบางลำ รวมไปถึงเรือ Sambo Dream จากเกาหลีใต้ ที่ยอมจ่ายเงินค่าไถ่ถึงกว่า 9 ล้าน 5 แสนเหรียญสหรัฐเพื่อแลกกับการปล่อยตัว แต่แอนนา บาวเดน (Anna Bowden) ผู้เขียนรายงานชิ้นนี้บอกว่าเงินค่าไถ่เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นโดยมีสาเหตุมาจากกลุ่มโจรสลัดโซมาเลีย

ผู้เขียนรายงานฉบับนี้ บอกว่า เรือเดินสมุทรจำนวนไม่น้อยไม่ยอมเดินเรือผ่านบริเวณที่เสี่ยงต่อกลุ่มโจรสลัด โดยเปลี่ยนเส้นทางเดินเรืออ้อมอ่าวตามชายฝั่งทวีปแอฟริกา ผ่านแหลมกู๊ดโฮปออกไป และทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นประมาณ 2 – 3 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี เช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายด้านอื่นไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ด้านการรักษาความปลอดภัย และการซื้อกรมธรรพ์ประกันภัยเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ต้องไม่ลืมงบประมาณในส่วนของภาครัฐที่ใช้สนับสนุนกองทัพ /ค่าใช้จ่ายจากการฟ้องร้อง รวมไปถึงงบประมาณที่จ่ายให้กับองค์กรต่อต้านโจรสลัด

นักวิเคราะห์จากThink tank แห่งนี้ย้ำกับวีโอเอ ว่า แม้ตัวเลขงบประมาณ 1 หมื่น 2 พันล้านเหรียญจะยังดูไม่มากนักแต่ตัวเลขค่าใช้จ่ายจะเพิ่มเป็นเงาตามตัวจากแนวโน้มปริมาณการขนส่งสินค้าที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคตหลังจากนานาชาติเริ่มฟื้นจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ

รายงานของแอนนา บาวเดน เป็นส่วนหนึ่งของโครงการOne Earth Future’s Ocean Beyond Piracy Project ซึ่งเป็นโครงการเพื่อการจัดระบบการประมาณการค่าใช้จ่ายที่เกิดจากกลุ่มโจรสลัดที่พัฒนาขึ้นเพื่อเป็นต้นแบบเปิดเผยให้นานาประเทศได้จัดส่งข้อมูลและประเมินตัวเลขที่ถูกต้องได้มากขึ้นจากผลกระทบของอาชญากรรมระดับโลก

นอกจากนี้ยังมีรายงานประจำปี สำนักงานการเดินเรือระหว่างประเทศซึ่งเป็นกลุ่มที่ติดตามดูการเดินเรือได้รวบรวมบันทึกเหตุการณ์และตัวเลขการสูญเสียจากการจับตัวประกันของโจรสลัดโซมาเลียตลอดปีพุทธศักราช 2553พบว่าในปีที่ผ่านมากลุ่มเรือโจรสลัดจับเรือไปมากกว่า 53 ลำ ในการเข้าโจมตีกว่า 445 ครั้ง ส่วนใหญ่ปฏิบัติการในพื้นที่อ่าวโซมาเลีย นอกจากนี้นยังมีสถิติการปล้นเพิ่มขึ้นในเขตน่านน้ำบังคลาเทศ อินโดนีเซีย และทะเลจีนใต้ ในจำนวนนี้พบว่ามีลูกเรือถูกสังหารไปทั้งหมด 8 ราย

รายงานชิ้นนี้ ยังระบุด้วยว่าการลาดตระเวนของกองเรือสหภาพยุโรปและกองกำลังของนานาชาติประสบความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในภารกิจที่จะยุติกองเรือโจรสลัดโซมาเลียที่คอยโจมตีเรือที่ใช้เส้นทางข้ามอ่าวเอเดนและมหาสมุทรอินเดียโดยมีตัวเลขประเมินว่าลูกเรือเกือบ 700 คนที่ยังถูกโจรสลัดโซมาเลียควบคุมตัวไว้ในเรือประมาณ 30 ลำ