Your browser doesn’t support HTML5
ผู้เสียชีวิตรายแรกจากการทดลองรถยนต์ขับเคลื่อนและบังคับควบคุมด้วยตัวเอง คือนาง Elaine Herzberg สตรีวัย 49 ปีที่ใกล้นครฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเวลากลางคืน เมื่อเธอเดินข้ามถนนตัดหน้ารถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองที่ Uber กำลังทดสอบอยู่ในรัฐแอริโซนา
และถึงแม้เจ้าหน้าที่สอบสวนของรัฐแอริโซน่าจะยังไม่ระบุว่าใครเป็นฝ่ายผิด รวมทั้งหน่วยงานที่กำกับควบคุมเรื่องการคมนาคมขนส่งของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะยังไม่เปิดเผยรายงานการตรวจสอบเรื่องนี้ก็ตาม แต่กรณีนี้ก็ได้จุดประกายเสียงเรียกร้องเรื่องการควบคุมเทคโนโลยีการบังคับและขับเคลื่อนตัวเองของรถยนต์ขึ้นมาอีกครั้ง
ในขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่กำกับดูแลเรื่องพาหนะที่บังคับควบคุมและเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเอง แต่ก็มีมลรัฐบางแห่ง เช่น แอริโซน่า เนวาด้า และมิชิแกน ออกกฎข้อบังคับให้เอื้อต่อบริษัทต่างๆ ที่ต้องการทดลองเทคโนโลยีและลงทุนเรื่องนี้ในรัฐของตน
ผู้ไม่ต้องการให้มีกฎเกณฑ์ควบคุมเรื่องพาหนะขับเคลื่อนด้วยตัวเองอย่างเข้มงวด เช่น กระทรวงคมนาคมของรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ และบางรัฐในสหรัฐฯ นั้น ให้เหตุผลว่า เทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยป้องกันการเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ปีละราว 40,000 ราย เพราะการเสียชีวิตเหล่านี้ส่วนใหญ่ คือ 94% มักมาจากความผิดพลาดของมนุษย์ เช่น การเมาสุรา ความง่วง หรือความไม่ใส่ใจหลังพวงมาลัย เป็นต้น
ส.ส. Bob Latta สังกัดพรรครีพับลิกัน จากรัฐโอไฮโอ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการของรัฐสภาสหรัฐฯ ที่กำกับดูแลเรื่องรถยนต์อัตโนมัติ ให้ตัวเลขว่า มีผู้เดินถนนราว 6,000 คนที่ต้องเสียชีวิตในแต่ละปีจากรถยนต์ที่ขับด้วยมนุษย์ ดังนั้นจึงควรให้ความสนใจว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะสามารถช่วยเรื่องนี้ได้อย่างไร
แต่กลุ่มผู้สนับสนุนเรื่องความปลอดภัยแย้งว่า บริษัทเทคโนโลยีที่ต้องการลงทุนเรื่องรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองกำลังก้าวเร็วเกินไป และเกรงว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีกจากช่องว่างจากการทดลอง และการขาดการกำกับควบคุมที่ดีเรื่องการทดสอบรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ว่านี้
โดยตัวอย่างซึ่งกลุ่มนี้ยกขึ้นมาก็คือ อุปกรณ์เลเซอร์และเรดาร์ ในรถ SUV ที่ Uber ทดลองในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนานั้น ควรจะสามารถตรวจจับสตรีที่ถูกชนเสียชีวิตได้ และควรช่วยให้รถที่กำลังทดลองอยู่ สามารถเบรกหรือเบี่ยงหลบได้ ถึงแม้จะเป็นเวลากลางคืนหรืออยู่ในความมืดก็ตาม
ดังนั้นการพัฒนาเทคโนโลยีเรื่องนี้ควรค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้มีมาตรฐานที่ไว้ใจได้เกิดขึ้น
อาจารย์ Lee McKnight ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านสารสนเทศที่มหาวิทยาลัยซีราคิวส์ (Syracuse) กล่าวว่า ก่อนที่เทคโนโลยีรถยนต์บังคับควบคุมด้วยตนเองจะสามารถช่วยรักษาชีวิตมนุษย์ได้นั้น ประการแรกที่สุด เทคโนโลยีดังกล่าวจะต้องเรียนรู้ที่จะไม่คร่าชีวิตของผู้คนก่อนเป็นอันดับแรก