Your browser doesn’t support HTML5
ไม่นานนี้ซาอุดิอาระเบียปรับคณะผู้บริหารประเทศ และมีการปลดมกุฏราชกุมาร พร้อมแต่งตั้งรัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ ผลจากการเปลี่ยนแปลงภายใต้กษัตริย์พระองค์ใหม่อาจนำมาซึ่งแนวทางด้านนโยบายต่างประเทศที่มีพลวัตรมากขึ้น เนื่องจากตำแหน่งสำคัญๆ ตกเป็นของคนรุ่นใหม่ ขณะที่กษัตริย์ซัลมานทรงพระชนมายุใกล้ 80 พรรษา
นักวิเคราะห์กล่าวว่านโยบายของซาอุดิอาระเบียสะท้อนกระบวนการตัดสินใจที่กล้าคิดกล้าทำมากขึ้น เห็นได้จากการขึ้นสู่ตำแหน่งสูงๆ ที่มีอายุค่อนข้างน้อย หากเทียบกับผู้กุมอำนาจกลุ่มเดิมที่เคยเดินเกมต่างประเทศในช่องทางพิเศษแบบเงียบๆ หลังเวที
กลุ่มคนรุ่นใหม่หลังการปรับโดยกษัตริย์ซัลมานที่ขึ้นครองราชย์ไม่นานนี้ ประกอบด้วย รองมกุฎราชกุมารที่มีพระชนมายุไม่ถึง 40 พรรษา และรัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ อะเดล อัล จูเบียร์ ที่เคยเป็นเอกอัครราชทูตประจำสหรัฐ ขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมเป็นผู้รับผิดชอบการโจมตีกลุ่มกบฏฮูติในเยเมน
ส่วนมกุฎราชกุมารพระองค์ใหม่คือ เจ้าชายนาเยฟ เป็นหลานของกษัตริย์ซัลมาน เจ้าชายนาเยฟมีพระชนมายุ 55 พรรษาและเป็นที่รู้จักจากผลงานการปราบปรามกลุ่มอัลเคดะในซาอุดิอาระเบีย ในตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายใน
ผู้สันทัดกรณีกังวลว่าหากซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจของมุสลิมนิกายซุนนี่ เดินหน้านโยบายที่แข็งกร้าวกับประเทศอิหร่านที่เป็นฝ่ายชิอะห์ ในที่สุดคนกลุ่มน้อยที่สำคัญชาวชิอะห์ในซาอุฯ อาจลุกฮือขึ้นได้
และเนื่องจากสงครามสองด้านทั้งกับกลุ่มรัฐอิสลามไอเอสและกับกลุ่มกบฏฮูติในเยเมน ต้องใช้ทรัพยากรของประเทศมาก นักวิเคราะห์จึงเตือนว่า นโยบายกล้าคิดกล้าทำของกลุ่มอำนาจใหม่อาจกลับมาสั่นคลอนเสถียรภาพของผู้นำประเทศซาอุดิอาระเบียได้ในที่สุด
รายงานโดยสำนักข่าวต่างประเทศ เรียบเรียงโดย รัตพล อ่อนสนิท
โปรดติดตามรายละเอียดจากคลิปเรื่องนี้ในรายการข่าวสดสายตรงจากวีโอเอ