Your browser doesn’t support HTML5
ระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ที่เป็นระบบใช้กระดาษและดินสอมาตลอด กำลังจะได้รับการยกเครื่องให้เป็นการสอบด้วยระบบดิจิทัลออนไลน์ในเร็วๆ นี้แล้ว
ผู้ที่จะเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาของสหรัฐฯ นั้นจะต้องทำการสอบ SAT (SAT Reasoning Test) ซึ่งเป็นการสอบมาตรฐานสากลเพื่อวัดความถนัดในวิชาเลข และภาษาอังกฤษ
สำนักข่าว เอ็นพีอาร์ (NPR) และ เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล (WSJ) ต่างรายงานว่า ระบบการสอบดังกล่าวจะเริ่มยกเลิกการทำข้อสอบด้วยกระดาษและดินสอ สำหรับนักศึกษาต่างชาติตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี ค.ศ. 2023 เป็นต้นไป ก่อนจะดำเนินการเปลี่ยนแปลงสำหรับการสอบภายในสหรัฐฯ ในเดือนมีนาคมปี ค.ศ. 2024 โดยการยกเครื่องครั้งนี้ หมายถึง การที่ผู้เข้าสอบจะใช้คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตหรือแล็ปท็อปของตนเอง ที่ศูนย์สอบที่เลือก หรืออุปกรณ์ของโรงเรียนที่จัดการสอบ ขณะที่ เวลาในการทำข้อสอบนั้นจะลดลงจาก 3 ชั่วโมงมาเป็น 2 ชั่วโมงด้วย
พริสซิลลา โรดริเกซ จาก College Board ซึ่งเป็นองค์กรไม่หวังผลกำไรที่รับหน้าที่จัดการสอบ SAT กล่าวว่า ระบบการสอบแบบดิจิทัลนี้จะง่ายขึ้น และมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรียนมาและจะไปศึกษาต่อกว่าที่เคย โดยเป็นการปรับปรุงที่ได้รับข้อมูลใหม่ๆ มาจากผู้ที่อยู่ในแวดวงการศึกษาและนักเรียนเอง ทำให้มีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้องค์กรแน่ใจว่า การสอบดังกล่าวจะเป็นไปตามความต้องการของผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งเปลี่ยนแปลงไปได้ตามกาลเวลา
รายงานข่าวระบุว่า ก่อนหน้านี้ College Board ยกเลิกแผนการอนุญาตให้นักเรียนทำการสอบจากที่บ้านได้ เพราะความกังวลว่า นักเรียนอาจไม่สามารถมีอินเตอร์เน็ตและไฟฟ้าใช้ทำการสอบเป็นเวลา 3 ชั่วโมงติดต่อกันได้โดยไม่เกิดเหตุหยุดชะงัก ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ตลอดช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลและเป็นชุมชนผู้มีรายได้ต่ำ
ทั้งนี้ ระบบการสอบ SAT ใหม่นี้ จะมีการจัดเก็บข้อมูลโดยอัตโนมัติ (auto save) เพื่อว่า นักเรียนจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหรือมีปัญหาทำคำตอบที่เสร็จแล้วหายไป เพราะสัญญาณอินเตอร์เน็ตหลุด
นอกจากนั้น การเปลี่ยนมาใช้ระบบดิจิทัลนี้จะเกิดขึ้นกับการสอบ PSAT (Preliminary Scholastic Aptitude Test) ซึ่งเป็นการสอบเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการสอบ SAT ด้วย
ที่ผ่านมา การสอบ SAT นั้นเริ่มสูญเสียความนิยมไปพอควรให้กับคู่แข่งซึ่งก็คือ ACT (American College Testing Assessment) ที่สถาบันอุดมศึกษาหลายแห่งเริ่มหันไปใช้เป็นเงื่อนไขในการตอบรับการเข้าเรียน ขณะที่ โรงเรียนต่างๆ มักแสดงความกังวลว่า คะแนนสอบ SAT นั้น มักผูกติดกับเชื้อชาติและฐานะทางครอบครัวของนักเรียน ทั้งยังส่งผลเสียต่อโอกาสของการเข้าศึกษาต่อสำหรับนักเรียนที่มาจากครอบครัวรายได้ต่ำและชุมชนผิวสีด้วย
- ที่มา: เอ็นพีอาร์ และ เดอะ วอลล์ สตรีรท เจอร์นัล