กองทัพรัสเซียยังคงระดมโจมตีหลายเมืองทางภาคเหนือและภาคใต้ของยูเครนในวันจันทร์ ด้านเจ้าหน้าที่ยูเครนเตือนว่า ทหารรัสเซียกำลังรุกเข้าใกล้กับกรุงเคียฟ ขณะที่รัสเซียประกาศแผนล่าสุดเรื่องการจัดทำ "ระเบียงมนุษยธรรม" เพื่อนำประชาชนออกจากพื้นที่ที่ถูกโจมตี
แถลงการณ์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพบกยูเครน ระบุว่า กองทัพรัสเซียกำลังใช้ยุทธศาสตร์ปิดล้อมกรุงเคียฟ เมืองคาร์คีฟ เมืองเชอร์นิฮีฟ เมืองซูมี และเมืองมีโกลาเยฟ พร้อมกล่าวหารัสเซียว่า ละเมิดกฎหมายด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ จากการโจมตีใส่ประชาชนและทำให้เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรมในหลายพื้นที่
ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียมีแถลงการณ์เช่นกัน โดยระบุว่า กองทัพรัสเซียจะประกาศ "ระบอบแห่งความเงียบ" ชั่วคราวเริ่มตั้งแต่วันจันทร์นี้ เพื่อเปิดเส้นทางให้ประชาชนสามารถอพยพออกจากกรุงเคียฟ เมืองคาร์คีฟ เมืองซูมี และเมืองมาริอูโปล โดยประชาชนที่เดินทางออกจากกรุงเคียฟจะถูกอพยพด้วยเครื่องบินไปยังรัสเซีย
คำประกาศนี้มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาคร็อง มีคำขอไปยังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน โดยตรงเมื่อวันอาทิตย์
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยูเครนปฏิเสธแผนดังกล่าวของรัสเซีย โดยเฉพาะในส่วนของการอพยพประชาชนยูเครนไปยังรัสเซียและเบลารุส โดยรองนายกรัฐมนตรียูเครน ไอรีนา เวเรสค์ชัค กล่าวว่า เป็นข้อเสนอที่ไม่สามารถยอมรับได้
Your browser doesn’t support HTML5
ด้านเลขาธิการสภาผู้ลี้ภัยนอร์เวย์ แยน เอกแลนด์ กล่าวว่า ระเบียงมนุษยธรรมจะใช้ได้ผลเมื่อมีการอพยพผู้ลี้ภัยไปยังสถานที่ที่พวกเขารู้สึกปลอดภัยและผ่านการตกลงร่วมกัน แต่บทเรียนจากซีเรียได้แสดงให้เห็นถึงการใช้ระเบียงดังกล่าวในการอพยพผู้คนไปยังสถานที่ที่พวกเขารู้สึกว่าไม่ปลอดภัย
ข้อมูลจากสำนักงานผู้ลี้ภัยสหประชาชาติ ระบุว่า จนถึงขณะนี้มผู้ลี้ภัยจากยูเครนแล้วกว่า 1.7 ล้านคน ในจำนวนนี้มากกว่า 1 ล้านคนลี้ภัยไปยังโปแลนด์ ขณะที่ข้อมูลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วชี้ให้เห็นว่ามีประชาชนอพยพเข้าไปในรัสเซียและเบลารุสราว 50,000 คนเท่านั้น
ความกังวลของชาติพันธมิตรนาโต้
ในวันจันทร์ ประธานาธิบดีลิทัวเนีย กิตานาส นาวเซดา กล่าวว่า ความก้าวร้าวของรัสเซียกำลังเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของสหภาพยุโรปและองค์การนาโต้
ผู้นำลิทัวเนียกล่าวระหว่างต้อนรับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน ว่า "ปูตินจะไม่หยุดแค่ยูเครน" และว่า เป็นหน้าที่ของลิทัวเนียในการให้ความช่วยเหลือแก่ชาวยูเครนในทุกวิถีทางเท่าที่ทำได้ และเพื่อหลีกเลี่ยงสงครามโลกครั้งที่สาม
ด้านรัฐมนตรีบลิงเคน กล่าวเน้นย้ำว่า ได้มีการขีดเส้นอย่างชัดเจนว่าหากมีการรุกรานประเทศสมาชิกองค์การนาโต้ประเทศใดก็ตาม สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรจะเข้าร่วมปกป้องทุกตารางนิ้วของดินแดนชาติสมาชิกนาโต้นั้นทันที
ต่อจากลิทัวเนีย รมต.บลิงเคนจะเดินทางเยือนแลตเวียและเอสโตเนีย ซึ่งเป็นสมาชิกขององค์การนาโต้และต่างเคยเป็นสมาชิกสหภาพโซเวียตด้วย
ท่าทีล่าสุดของจีน
ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวัง อี้ กล่าวในวันจันทร์ว่า จีนยินดีทำงานร่วมกับประชาคมโลกเพื่อเป็นตัวกลางช่วยไกล่เกลี่ยสถานการณ์ในยูเครนหากจำเป็น พร้อมยืนยันว่ารัสเซียยังคงเป็น "พันธมิตรทางยุทธศาสตร์" ที่สำคัญที่สุดของรัสเซีย และความสัมพันธ์ของสองประเทศแข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า
ที่ผ่านมา จีนพยายามคัดค้านการใช้มาตรการลงโทษของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป สืบเนื่องจากการรุกรานของรัสเซียต่อยูเครน
- ที่มา: วีโอเอ เอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์