หน่วยงานข่าวกรองสหรัฐฯ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ว่าประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน อาจจะต้องจำใจลดเป้าหมายระยะสั้นในการทำสงครามในยูเครน จากที่เคยตั้งใจให้ได้ชัยชนะเหนือรัฐบาลเคียฟโดยเร็ว
เจ้าหน้าที่หน่วยงานข่าวกรองอเมริกันกล่าวว่า เมื่อสงครามดำเนินมากว่าหนึ่งปี ปูตินอาจจะยอมปรับเป้าหมายลงระดับหนึ่ง เมื่อเห็นความจริงในสนามรบที่เกิดขึ้น
ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ เอวริล เฮนส์ กล่าวว่าปูตินอาจจะกำลังลดความทะเยอทะยานในเป้าหมายของสงคราม และหันมา "ผนึกรวม" อำนาจในเขตที่รัสเซียยึดไว้ทางตะวันออกเเละทางใต้ของยูเครน
เธอกล่าวว่าสิ่งที่รัสเซียดำเนินการอยู่มีเป้าหมายเพื่อทำให้มั่นใจว่ายูเครน "จะไม่มีวันได้เป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ"
"กองกำลังของรัสเซียได้พื้นที่ในเดือนเมษายนน้อยกว่าช่วงใด ๆ ในเวลาสามเดือนก่อนหน้านี้" เฮนส์กล่าวต่อสมาชิกคณะกรรมาธิการด้านการทหารของวุฒิสภาสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี
เธอกล่าวด้วยว่าทหารรัสเซียกำลังเจอปัญหาอาวุธไม่เพียงพอและข้อจำกัดอย่างมีนัยสำคัญด้านบุคลากรของกองทัพ
พลโทสกอตต์ เบอร์เรียร์ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการหน่วยงานข่าวกรองเพื่อการป้องกันประเทศของสหรัฐฯกล่าวว่า น่าจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าที่กองทัพรัสเซียที่เสริมกำลังทหารและอาวุธกลับมาใหม่
อย่างไรก็ตาม พลโทเบอร์เรียร์ กล่าวว่า ณ เวลานี้ปูตินยังไม่น่าจะอยู่ในภาวะทางตัน จนต้องให้อาวุธนิวเคลียร์
อีกด้านหนึ่ง ผู้นำของ แวกเนอร์ กรุ๊ป ที่ส่งทหารรับจ้างให้กับกองทัพรัสเซีย กล่าวว่าเขาจะถอนทหารรับจ้างของเเวกเนอร์ออกจากเมืองบาคห์มุต ที่ยูเครนในวันที่ 10 พ.ค. เนื่องจากมีอาวุธไม่พอเพียง
เยฟเกนี พริโกซิน กล่าวว่า หากไม่มีอาวุธเพียงพอ ทหารรับจ้างของเเวกเนอร์ "ตกอยู่ในชะตากรรมที่ต้องตายอย่างไร้เหตุผล"
ในส่วนของประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เขากล่าววันพฤหัสบดีว่า ประธานาธิบดีปูตินน่าจะต้องเผชิญกับกระบวนการยุติธรรมผ่านขั้นตอนของศาลอาญาระหว่างประเทศ ที่เฮค หรือ ICC (International Criminal Court) จากการก่อสงครามในยูเครน
แม้ว่า ICC จะออกหมายจับปูตินเมื่อเดือนมีนาคม แต่ศาลแห่งนี้ไม่มีอำนาจดำเนินคดีอาชญากรรมสงคราม ดังนั้นการที่ผู้นำรัสเซียจะถูกดำเนินคดีที่เฮคจึงน่าจะเกิดขึ้นได้ยาก
- ที่มา: ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี