ยูเครนรายงานในวันจันทร์ว่า กองทัพรัสเซียโจมตีทางอากาศเข้าใส่กรุงเคียฟรอบใหม่ หลังเดินหน้าทำการดังกล่าวติดต่อกันมาเป็นเวลา 2 คืน ขณะที่ แอฟริกาใต้สั่งตรวจสอบข้อกล่าวหาของสหรัฐฯ ว่า ปล่อยให้รัสเซียมารับมอบอาวุธจากฐานทัพเรือใกล้ ๆ กับเมืองเคปทาวน์หลังมอสโกส่งกองทัพรุกรานประเทศเพื่อนบ้านของตน
วิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ ระบุในข้อความที่ส่งผ่านแอปพลิเคชั่นเทเลแกรมว่า เกิดเหตุระเบิดหลายครั้งที่ใจกลางเมืองในวันจันทร์ และตนได้แจ้งให้ประชาชนเข้าไปหลบภัยในอาคารบ้านเรือนแล้ว โดยกล่าวว่า การโจมตีครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลัง “คืนอันยากเข็ญอีกคืนหนึ่งในเมืองหลวง”
ส่วน เซอร์ฮีย์ โพพโก หัวหน้าฝ่ายบริหารกองทัพกรุงเคียฟ กล่าวว่า กองกำลังของมอสโกใช้ทั้งขีปนาวุธแบบร่อนและโดรนชาเฮดในการโจมตีเข้าใส่เมืองหลวงของยูเครนตลอดคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการพุ่งเป้าโจมตีเข้าใส่กรุงเคียฟครั้งที่ 15 ของเดือนนี้ด้วย
กองทัพอากาศยูเครนอ้างว่า ฝ่ายตนสามารถยิงขีปนาวุธของรัสเซียตกลง 37 ลูก จากทั้งหมด 40 ลูก และโดรน 29 ลำจากทั้งหมด 35 ลำ ที่ถูกส่งเข้ามาโจมตีพื้นที่หลายมืองในช่วงข้ามคืน แต่ทางการยูเครนเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 คนและได้รับบาดเจ็บราว 18 คนจากเหตุการณ์โจมตีนี้
ขณะเดียวกัน รัสเซียเปิดเผยว่า กองทัพของตนได้ยิงโจมตีฐานทัพอากาศของยูเครนในช่วงคืนที่ผ่านมา โดยสื่อ RIA ของรัฐบาลมอสโก อ้างข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมและระบุว่า การโจมตีดังกล่าวสร้างความเสียหายให้ฐานทัพอากาศมากกว่า 1 แห่ง
แต่แม้ยูเครนจะไม่ได้ยืนยันคำกล่าวอ้างว่า ฐานทัพอากาศของตนตกเป็นเป้าการโจมตีดังกล่าว มีการยอมรับว่า ขณะนี้ กำลังมีการซ่อมแซมรันเวย์แห่งหนึ่ง และมีเครื่องบิน 5 ลำที่ต้องถูกปลดประจำการในเขตปกครอง คเมลนิตสกีย์ ทางตะวันตกของประเทศ แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของตำแหน่งที่ตั้ง
ดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครน ทวีตข้อความที่ระบุว่า “การที่รัสเซียส่งโดรนและขีปนาวุธโจมตีเมืองอันสงบเงียบของยูเครนไม่ควรถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งเท่าใดก็ตาม” และว่า “ทั้งหมดนี้คืออาชญากรรมสงครามและต้องยุติลงให้ได้ด้วยการเสริมกำลังการป้องกันทางอากาศของยูเครน อันรวมถึง[การใช้]เครื่องบินรบ เอฟ-16 และการทำให้การรุกรานของรัสเซียจบลง”
รัสเซียขู่ตอบโต้การนำส่ง เอฟ-16 ให้ยูเครน
เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า คำสัญญาของชาติตะวันตกบางประเทศที่จะนำส่งเครื่องบินรบ เอฟ-16 ให้กับยูเครนนั้นเป็น “การยกระดับ [สถานการณ์] อันไม่อาจยอมรับได้” และกล่าวหาพันธมิตรตะวันตกว่า พยายาม “ทำให้รัสเซียอ่อนแอ” ด้วย ตามรายงานของสื่อรัฐบาลมอสโก
SEE ALSO: ไบเดนสนับสนุนแผนฝึกนักบิน F-16 ให้ยูเครนกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังอ้างด้วยว่า รมต.ลาฟรอฟ กล่าวว่า การดำเนินการที่ว่าของชาติตะวันตกนั้น “เป็นการเล่นกับไฟอยู่”
ข้อผิดใจแอฟริกาใต้-สหรัฐฯ
ประธานาธิบดีซีริล รามาโพซา แห่งแอฟริกาใต้ เปิดเผยว่า จะมีการสั่งสืบสวนคำกล่าวหาของสหรัฐฯ ที่ว่า เรือลำหนึ่งของรัสเซียแวะรับอาวุธจากฐานทัพเรือแห่งหนึ่งใกล้ ๆ กับเมืองเคปทาวน์เมื่อปีที่แล้ว ตามรายละเอียดในแถลงการณ์ทำเนียบประธานาธิบดีที่มีออกมาในวันอาทิตย์
ที่ผ่านมา รัฐบาลแอฟริกาใต้ปฏิเสธคำกล่าวหาที่ว่านี้มาโดยตลอด ขณะที่ประเด็นดังกล่าวกลายมาเป็นเรื่องกินแหนงแคลงใจทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศ รวมทั้งรัสเซียไปแล้ว ทั้งยังทำให้มีผู้ออกมาตั้งคำถามถึงจุดยืนของแอฟริกาใต้ที่อ้างว่า ขอเป็นกลางในกรณีความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนด้วย
ยูเครนเพิ่มการลงโทษอิหร่าน
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี นำเสนอร่างกฎหมายใหม่ที่มีเนื้อหาลงโทษอิหร่านเพิ่มอีก 50 ปี สำหรับการส่งความช่วยเหลือทางทหารให้กับรัสเซีย
อันดรีย์ เยอร์มัก หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบประธานาธิบดียูเครน กล่าวว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวคือการตอบโต้สิ่งที่กรุงเคียฟระบุว่า เป็นการนำส่งอาวุธต่าง ๆ โดยกรุงเตหะรานให้กับกรุงมอสโก โดยเนื้อหาในร่างกฎหมายนี้สั่งห้ามการทำการค้าทุกอย่าง การลงทุน และการโอนถ่ายเทคโนโลยีทั้งหลายให้กับอิหร่าน
หากมีการผ่านกฎหมายนี้ออกมาใช้งานจริง ยูเครนจะประกาศห้ามไม่ให้ประชาชนชาวอิหร่านใช้อาณาเขตของตนเป็นจุดผ่านของการเดินทาง และห้ามไม่ให้อิหร่านบินผ่านน่านฟ้าของตน รวมทั้งจะมีการยึดทรัพย์สินของอิหร่านด้วย
ทั้งนี้ รัฐบาลกรุงเตหะรานก็เฝ้าปฏิเสธคำกล่าวหาของกรุงเคียฟและประเทศพันธมิตรทั้งหลายว่า อิหร่านนำส่งอาวุธต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงโดรนหลายร้อยลำให้กับรัสเซียมาโดยตลอด
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี รอยเตอร์และเอเอฟพี