รัสเซียรายงานในวันศุกร์ว่า ยูเครนส่งโดรนใต้ทะเล 2 ลำเข้ามาโจมตีฐานทัพของตนในทะเลดำ ในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา ขณะที่ แหล่งข่าวของรอยเตอร์ยืนยันว่า การโจมตีดังกล่าวสร้างความเสียหายรุนแรงต่อเรือรบของกองทัพรัสเซียด้วย
อย่างไรก็ดี ฝ่ายรัสเซียระบุว่า ได้มีการทำลายโดรนทั้งสองลำไปแล้ว
เจ้าหน้าที่ยูเครนเปิดเผยเพิ่มเติมด้วยว่า รัสเซียทำการโจมตีกรุงเคียฟวันที่ 2 ติดต่อกันในวันพฤหัสบดี ด้วยการส่งโดรนจำนวนมากเข้ามาถล่ม แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายใด ๆ ขณะที่ กองทัพยูเครนระบุว่า ตนสามารถยิงโดรนชาเฮดของอิหร่านจำนวน 15 ลำที่รัสเซียส่งมาตกไปด้วย
แต่ในวันเดียวกัน รัสเซียรายงานว่า ยูเครนส่งโดรนเข้าโจมตีเขตปกครองคาลูกา ที่อยู่ห่างจากกรุงมอสโกไปทางใต้เป็นระยะทางราว 150 กิโลเมตร โดย เวียเชสลาฟ ชาพชา ผู้ว่าการเขตปกครองดังกล่าว ระบุในแอปพลิเคชั่นเทเลแกรมว่า ระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศสามารถยิงโดรน 6 ลำตกและว่า ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้
การประชุมข้อตกลงสันติภาพ
ขณะเดียวกัน ยูเครนและกลุ่มพันธมิตรเปิดเผยว่า ฝ่ายตนกำลังเตรียมการรวบรวมเสียงสนับสนุนจากทั่วโลกเพื่อสนับสนุนแผนเจรจาสันติภาพในระหว่างการประชุมที่จัดขึ้นที่ประเทศซาอุดีอาระเบียในสุดสัปดาห์นี้
นักการทูตยูเครนและชาติตะวันตกต่างหวังว่า การประชุมที่จะเกิดขึ้นที่นครเจดดาห์นั้นจะเป็นโอกาสให้เจ้าหน้าที่ทั้งหลายตกลงกันในหลักการสำคัญ ๆ อันจะนำไปสู่ข้อตกลงสันติภาพที่จะยุติสงครามในยูเครนที่เกิดขึ้นจากการรุกรานของรัสเซีย
รายงานข่าวระบุว่า ตัวแทนจากราว 40 ประเทศมีกำหนดจะเข้าร่วมการประชุมนี้ ขณะที่ กระทรวงการต่างประเทศจีนยืนยันในวันศุกร์ว่า หลี่ ฮุ่ย ผู้แทนพิเศษจีนฝ่ายกิจการยูเรเซีย จะเข้าร่วมการหารือในครั้งนี้ด้วย
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แสดงความหวังว่า การหารือที่จะมีขึ้นในวันเสาร์และวันอาทิตย์นี้จะนำไปสู่ “การประชุมสุดยอดสันติภาพ” ที่มีผู้นำโลกเข้าร่วมในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปีนี้
อย่างไรก็ดี เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า รัสเซียจะไม่เข้ามาร่วมการประชุมที่ซาอุดีอาระเบียและการประชุมสุดยอดในช่วงปลายปีนี้
นอกจากกลุ่มประเทศตะวันตกที่หนุนยูเครนอยู่แล้ว กรุงเคียฟหวังที่จะระดมเสียงสนับสนุนทางการทูตจากประเทศในภูมิภาคละตินอเมริกา แอฟริกา เอเชียและโอเชียเนีย (Global South) ซึ่งรวมความถึง บราซิล อินเดีย แอฟริกาใต้และตุรกี
ส่วนหนึ่งของแผนการระดมเสียงสนับสนุนที่ว่าของยูเครนก็คือ การเน้นย้ำประเด็นราคาอาหารที่พุ่งสูง หลังรัสเซียถอนตัวออกจากข้อตกลงทะเลดำเมื่อปลายเดือนที่แล้วและการระดมโจมตีโครงสร้างท่าเรือต่าง ๆ ของยูเครนด้วย
และนอกเหนือจากพื้นที่ท่าเรือต่าง ๆ แล้ว กองกำลังรัสเซียยังพุ่งเป้าโจมตีไปยังสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมของยูเครนด้วย โดยข้อมูลจาก องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ระบุว่า นับตั้งแต่เมื่อรัสเซียรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่แล้ว สถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมของยูเครนอย่างน้อย 274 แห่งถูกทำลายเสียหายไปแล้ว
‘อเล็กเซ นาวาลนี’ โดนสั่งลงโทษจำคุกเพิ่ม
ศาลรัสเซียมีคำพิพากษาในวันศุกร์ที่สั่งลงโทษ อเล็กเซ นาวาลนี ผู้นำการต่อต้านรัฐบาลเครมลิน ด้วยการจำคุกเป็นเวลา 19 ปีในข้อหาที่เกี่ยวเนื่องกับลัทธิหัวรุนแรง
ก่อนหน้านี้ นาวาลนีถูกลงโทษด้วยการจำคุกเป็นระยะเวลา 9 ปี จากความผิดในหลายข้อหาที่เจ้าตัวระบุว่า เป็นข้อกล่าวหาที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมืองทั้งสิ้น
บทลงโทษล่าสุดนี้มีออกมา หลังศาลรัสเซียไต่สวนคดีที่เกี่ยวเนื่องกับกิจกรรมต่าง ๆ ของมูลนิธิต่อต้านคอร์รัปชันที่นาวาลนีก่อตั้งขึ้นและอ้างอิงจากคำแถลงของนักกฎหมายที่ทำงานใกล้ชิดกับอดีตนักการเมืองรายนี้ โดยคำสั่งลงโทษนี้เป็นคำพิพากษาว่ามีความผิดคดีที่ 5 ที่เครมลินสั่งฟ้อง
ทั้งนี้ อัยการรัสเซียได้เรียกร้องให้มีการลงโทษจำคุกเป็นเวลา 20 ปี ขณะที่ นาวาลนีกล่าวก่อนหน้านี้ว่า ตนคาดว่า ศาลน่าจะสั่งจำคุกเป็นเวลานานพอควร
การพิพากษาคดีในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับลัทธิหัวรุนแรงนี้ดำเนินการในแบบปิด ภายในอาณานิคมทัณฑสถานความมั่นคงสูงสุดที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของกรุงมอสโก ซึ่งเป็นที่ ๆ นาวาลนีถูกจำขังไว้อยู่
รายงานข่าวระบุว่า นาวาลนีปรากฏตัวในศาลในวันศุกร์ ในชุดนักโทษ ในภาพผอมแห้ง แต่ยังมีรอยยิ้มบนใบหน้าอยู่
ขณะเดียวกัน บรรดาพันธมิตรของนักการเมืองวัย 47 ปีที่ถือว่า เป็นคู่อริตัวฉกาจที่สุดของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ระบุว่า ข้อหาเกี่ยวข้องกับลัทธิหัวรุนแรงที่เครมลินสั่งฟ้องนี้ยังส่งผลให้กิจกรรมที่ผ่านมาของมูลนิธิต่อต้านคอร์รัปชันที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2011 กลายเป็นอาชญากรรมไปในทันที
และก่อนที่ศาลจะประกาศคำพิพากษาออกมา กลุ่มผู้สนับสนุนนาวาลนีราว 40 คนที่มาจากเมืองต่าง ๆ ทั่วรัสเซียได้มารวมตัวกันที่ด้านนอกอาณานิคมทัณฑสถานซึ่งเป็นที่คุมขังของนักการเมืองรายนี้ ตามการยืนยันของหนึ่งในผู้ร่วมชุมนุมที่แจ้งกับผู้สื่อข่าวเอพีผ่านแอปพลิเคชั่นเทเลแกรม
- ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์