รัสเซียกับจีนกำลังสลับสับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ทางการค้า

  • James Brooks
    ทรงพจน์ สุภาผล

รัสเซียกับจีนกำลังสลับสับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ทางการค้า

ปัจจุบันรัสเซียกับจีนกำลังสลับสับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ทางการค้าระหว่าง 2 ประเทศ กล่าวคือรัสเซียซึ่งครั้งหนึ่งเคยขายอาวุธ รถยนต์และเครื่องจักรให้แก่จีน เวลานี้ได้เปลี่ยนมาเป็นผู้นำเข้าสินค้าจากจีนแทนและผู้จัดหาวัตถุดิบต่างๆให้แก่จีนแทน

ประธานาธิบดีรัสเซีย Dmitry Medvedev เพิ่งกลับจากการเดินทางเยือนจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วพร้อมข้อตกลงด้านพลังงานหลายฉบับ แต่สิ่งที่ประธานาธิบดีรัสเซียต้องการจริงๆแต่ยังไม่สมหวังเท่าที่ควรก็คือ ข้อตกลงที่ให้จีนเข้ามาลงทุนด้านอุตสาหกรรมสมัยใหม่ในรัสเซีย แม้ทางเจ้าหน้าที่จีนได้รับปากแล้วว่าจะพิจารณาการลงทุนในสวนเทคโนโลยีแห่งใหม่ชานกรุงมอสโกก็ตาม

หลายๆคนเห็นว่าการจับคู่ระหว่างจีนกับรัสเซียนั้นเหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะฝ่ายหนึ่งคือผู้ผลิตพลังงานรายใหญ่ที่สุดในโลก ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งคือผู้ใช้พลังงานมากที่สุดในโลก โดยส่วนหนึ่งของข้อตกลงด้านพลังงานที่ทั้งสองฝ่ายร่วมลงนามในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาระบุไว้ว่า รัสเซียจะจัดหาน้ำมันและถ่านหินให้กับจีน ในขณะที่จีนจะเข้ามาลงทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลล่าร์ในเหมืองถ่านหิน โรงถลุงแร่อลูมิเนียม ธุรกิจไม้และธุรกิจการเกษตร

อย่างไรก็ตาม คุณ Chris Weafer นักวิเคราะห์เศรษฐกิจในกรุงมอสโกมองว่า รัสเซียคงไม่ชอบใจนักที่ต้องสลับบทบาทกลายเป็นผู้จัดหาวัตุดิบให้แก่จีน นักวิเคราะห์ผู้นี้เชื่อว่าประธานาธิบดี Medvedev และเจ้าหน้าที่รัสเซียต้องการให้จีนเข้ามาลงทุนในภาคการผลิตและเทคโนโลยีของรัสเซียมากขึ้นนอกเหนือไปจากเรื่องพลังงาน แต่ทางฝ่ายจีนต้องการเพียงแค่ให้รัสเซียจัดหาพลังงานป้อนให้จีนมากขึ้นเท่านั้น

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มูลค่าการค้าระหว่างจีนกับรัสเซียเพิ่มขึ้นถึง 12 เท่า ส่งผลให้จีนแซงหน้าเยอรมันนีขึ้นเป็นประเทศคู่ค้าอันดับหนึ่งของรัสเซีย และตั้งแต่ปี คศ. 2007 เป็นต้นมา พื้นที่แถบชายแดนรัสเซียซึ่งติดกับจีนคือภูมิภาคที่เศรษฐกิจเติบโตรวดเร็วที่สุดของรัสเซีย แต่ยอดการส่งออกอาวุธและรถยนต์จากรัสเซียไปยังจีนกลับตกลงอย่างน่าใจหาย โดยยอดการส่งออกที่เพิ่มขึ้นอยู่ในส่วนของพลังงานทั้งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน

ปัจจุบัน น้ำมันและก๊าซจากรัสเซียส่วนใหญ่จะขนส่งไปยังจีนด้วยเรือบรรทุกน้ำมัน แต่จีนต้องการพลังงานมากขึ้นผ่านการขนส่งด้วยท่อที่เชื่อมต่อกับแหล่งพลังงานโดยตรง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดี Medvedev และประธานาธิบดี Hu Jintao ร่วมในพิธีเปิดท่อส่งน้ำมันโครงการแรกความยาว 1 พันกิโลเมตร ซึ่งจะส่งน้ำมันจากเขตไซบีเรียมายังภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน นอกจากนี้จีนยังต้องการให้ก่อสร้างท่อขนส่งก๊าซด้วย แต่จนถึงตอนนี้ทั้งสองฝ่ายยังคงตกลงกันไม่ได้ในเรื่องราคา และในขณะที่ประเด็นเรื่องราคาก๊าซยังเป็นปัญหาคาราคาซังประกอบกับรัสเซียมีอำนาจการต่อรองน้อยลงเพราะความต้องการก๊าซในตลาดโลกลดลง ท่อก๊าซและท่อน้ำมันโครงการใหม่ก็เริ่มเกิดขึ้นโดยมีจุดเริ่มต้นจากแถบเอเชียกลางไปยังจีน

คุณ Chris Weafer เชื่อว่าขณะนี้จีนสามารถจ่อปืนไปที่รัสเซียแล้วบังคับให้ทำตามที่จีนต้องการได้ ไม่เช่นนั้นจีนอาจเลือกไปหาแหล่งพลังงานใหม่ๆในเอเชียกลางแทน ความจริงในเรื่องนี้ยิ่งเด่นชัดขึ้นในช่วงที่ประธานาธิบดี Medvedev กำลังเยือนจีน เพราะในเวลาเดียวกันนั้น ประธานาธิบดีเติร์กเมนิสถานได้ลงนามในสัญญาเพิ่มการส่งออกก๊าซธรรมชาติให้แก่จีน ในปริมาณที่มากยิ่งกว่าก๊าซทั้งหมดที่รัสเซียเคยจัดหามาให้เสียอีก