ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตกลงปลงใจที่จะเข้าร่วมการดีเบต 2 ครั้ง โดยมีการกำหนดกฎกติกาซึ่งมีเป้าหมายให้การดีเบตเป็นไปอย่างสุภาพราบรื่นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่การดีเบตทั้งสองครั้งนี้จะเปลี่ยนใจผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกผู้สมัครคนใดเป็นการพิเศษได้หรือไม่นั้นยังคงเป็นประเด็นที่ต้องจับตา
วันเวลาเคาะมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับการดีเบตระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน และอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะขับเคี่ยวกันในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยการดีเบตทั้งสองครั้งมีขึ้นในวันที่ 27 มิถุนายน และ 10 กันยายนตามลำดับ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ให้คำตอบที่ตรงไปตรงมาเกี่ยวกับการดีเบตครั้งนี้กับอดีตปธน.ทรัมป์ว่า “โดนัลด์ ทรัมป์พ่ายแพ้การดีเบตมา 2 ครั้งในปี 2020 และจากนั้นก็ไม่เคยปรากฏตัวในการดีเบตที่ไหนเลย ตอนนี้เขาอยากจะดีเบตกับผมอีกครั้ง งั้น จัดไป!”
ด้านอดีตปธน.ทรัมป์ ออกมาโต้แย้งในประเด็นนี้ ระหว่างการหาเสียงเมื่อวันศุกร์ที่รัฐมินนิโซตาว่า “ผมแค่อยากจะดีเบตกับเขา ผมอยากจะขอให้ตรวจสารเสพติดด้วยนะ ผมคิดอย่างนั้นจริง ๆ ผมไม่อยากให้เขาเข้ามาพูดเหมือนตอนแถลงนโยบายและผลงานประจำปี (State of the Union) เขาเหมือนเมายาหนักมาก”
ทั้งนี้ วีโอเอไม่สามารถยืนยันคำกล่าวอ้างของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ได้
ทางวุฒิสมาชิกคริส แวน ฮอลเลน จากพรรคเดโมแครต ตั้งคำถามถึงกลยุทธ์การดีเบตของทรัมป์ ระหว่างการให้สัมภาษณ์เมื่อวันอาทิตย์ ในรายการ This Week ของสถานีโทรทัศน์เอบีซีว่า “เขา(ทรัมป์)ต้องการสร้างบรรยากาศเหมือนคณะละครสัตว์ แต่ตัวเลือกที่มีจะชัดเจนแจ่มแจ้งอยู่แล้ว ผมหมายถึง เรามีโจ ไบเดน ผู้เติบโตมาจากสแครนตัน เพนซิลเวเนีย เขาต่อสู้เพื่อคนชั้นกลาง เขาเชื่อถึงศักดิ์ศรีของการทำงานและความสุภาพเหมาะสม ส่วนโดนัลด์ ทรัมป์ คือตัวแทนแห่งกลียุค”
ด้านอดีตที่ปรึกษาของคณะหาเสียงทรัมป์ มาร์ก ล็อตเตอร์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เอบีซีเช่นกัน โดยออกโรงชื่นชมการดึงตัว 2 ผู้สมัครมาดีเบตบนเวทีอีกครั้ง และมองว่า “โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นไปพูด 2 หรือ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ และขึ้นกล่าวบนเวทีเป็นเวลา 90 นาที ส่วนโจ ไบเดน แทบไม่ปรากฎตัวในการสัมภาษณ์แบบจริงจัง นี่จะเป็นความท้าทายสำหรับประธานาธิบดีไบเดน”
สิ่งที่เปลี่ยนไปจากเมื่อปี 2020 คือ การดีเบตทั้งสองครั้งจะเกิดขึ้นโดยปราศจากผู้ชมสด ๆ ในการดีเบต ผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์จะเป็นผู้ดำเนินการดีเบตที่ออกอากาศทางซีเอ็นเอ็นและเอบีซี โดยที่ผู้ดำเนินรายการสามารถปิดไมโครโฟนของผู้สมัครที่พยายามจะรบกวนอีกฝ่ายในการดีเบตได้
เป้าหมายของการดีเบต คือ การช่วยให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสามารถตัดสินใจได้ล่วงหน้า ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ได้ ตามทัศนะของจูน สปีคแมน อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์ แห่ง Roger Williams University
สปีคแมน บอกกับวีโอเอผ่านทางสไกป์ว่า “ทรัมป์เก่งในการโฟกัสด้านลบของคู่แข่ง แต่ไม่ค่อยสนใจเรื่องการถกเถียงในประเด็นปัญหาต่าง ๆ การคาดเดาของฉันคือไบเดนจะพยายามโฟกัสในประเด็นต่าง ๆ เรื่องผลงานด้านเศรษฐกิจ และสนใจเรื่องตัวทรัมป์ในฐานะผู้สมัครในระดับที่น้อยกว่า”
สำหรับการดีเบตกับกลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกผู้สมัครคนใด เวลาเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ในทัศนะของจอห์น ฟอร์ติเยร์ นักวิชาการอาวุโสแห่ง American Enterprise Institute
ฟอร์ติเยร์ บอกกับวีโอเอผ่านทางสไกป์ว่า “เมื่อคุณใกล้จะเข้าสู่วันเลือกตั้งและผู้มีสิทธิ์ออกเสียงจำนวนมากให้ความสนใจ การดีเบตเหล่านี้จะมียอดผู้ชมและผู้คนจะจับตาดูจริง ๆ หากยังไม่เลือกใครเฉพาะเจาะจง เพื่อตัดสินใจในนาทีสุดท้าย”
การผลักดันของทั้งสองผู้สมัครเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจะดำเนินต่อไปในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าทรัมป์จะเดินทางไปเซาท์ บร็องซ์ ในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ ส่วนไบเดนจะเดินทางเยือนนิวแฮมเชอร์ ในวันที่ 21 พฤษภาคม และจะเดินทางต่อไปยังนครบอสตัน
- ที่มา: วีโอเอ