รายงานของ WWF ชี้ว่าสตรีวัยกลางคนในเอเชียมักเป็นผู้ซื้อนอแรดเป็นของขวัญให้กับคนในครอบครัวหรือบุคคลที่นับถือ

  • Joe Capua
รายงานของกองทุนสัตว์ป่าโลก (World Wildlife Fund) เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อนอแรด ในแง่มุมของการเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งและพลังอำนาจ ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้แรดในอาฟริกาถูกฆ่าตายปีละหลายร้อยหลายพันตัว

ดร. Jo Shaw ผู้ประสานงานด้านการอนุรักษ์พันธ์แรดของกองทุนสัตว์ป่าโลกประจำอาฟริกา เปิดเผยว่าปัจจุบัน 75% ของแรดทั่วโลกอาศัยอยู่ในประเทศอาฟริกาใต้ และตั้งแต่ปี ค.ศ 2008 เป็นต้นมา จำนวนแรดที่ถูกฆ่าเพื่อเอานอนั้นเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ คือจากจำนวนไม่ถึง 20 ตัวต่อปี เพิ่มเป็น 668 ตัวเมื่อปีที่แล้ว และเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ มีแรดถูกฆ่าตัดนอไปแล้ว 635 ตัว

ดร. Shaw ระบุว่าปัญหาการฆ่าเอานอแรดนั้นเริ่มมาตั้งแต่ราว 40-50 ปีที่แล้ว โดยในช่วงนั้นชาวอาหรับโดยเฉพาะชาวเยเมนนิยมนำนอแรดไปเป็นด้ามกริช ทำให้จำนวนแรดในอาฟริกากลางและอาฟริกาตะวันออกลดลงอย่างน่าใจหายจนเกรงว่าอาจสูญพันธ์ แต่หลังจากปี ค.ศ 1994 จำนวนแรดในอาฟริกาก็เพิ่มขึ้นอีกครั้งเพราะการควบคุมที่เข้มงวดยิ่งขึ้น มาจนถึงช่วงปีหลังๆที่ปัญหาการฆ่าแรดเพื่อเอานอเริ่มกลับมาและรุนแรงขึ้นกว่าเดิม แต่คราวนี้ตลาดใหญ่อยู่ที่เวียดนามและจีน

รายงานของกองทุนสัตว์ป่าโลก (World Wildlife Fund) ชี้ว่าผู้ที่ซื้อสินค้าจากนอแรด มักจะเป็นสตรีวัยกลางคนอายุราว 50 กว่าปี ซึ่งนิยมมอบนอแรดให้กับสมาชิกในครอบครัว รวมทั้งบรรดานักธุรกิจและเศรษฐีที่เชื่อว่านอแรดมีสรรพคุณเป็นยาและกระตุ้นความต้องการทางเพศได้ นอกจากนี้ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังอำนาจและความสำเร็จ

ดร. Jo Shaw ระบุว่าบางประเทศมีความเชื่อว่านอแรดสามารถนำมาสกัดเป็นยาครอบจักรวาล และถือเป็นของขวัญล้ำค่าที่มอบให้กับคนในครอบครัวหรือหุ้นส่วนทางธุรกิจ โดยผลการสำรวจความเห็นพบว่าคนเหล่านั้นมิได้ตระหนักรู้ว่าตนกำลังเป็นสาเหตุหลักทีทำให้เกิดการฆ่าแรดอย่างมากมายจนใกล้สูญพันธุ์

เวลานี้กองทุนสัตว์ป่าโลกและองค์กรเพื่อการคุ้มครองสัตว์ป่าทั่วโลกกำลังพยายามใช้แนวทางคู่ขนานพร้อมไปกับการป้องกันการลักลอบฆ่าแรดในอาฟริกา นั่นคือการรณรงค์สร้างจิตสำนึกในหมู่ผู้บริโภคชาวเวียดนามและในเอเชีย เพื่อให้ตระหนักว่าความต้องการนอแรดในประเทศตนกำลังทำให้สัตว์ป่าหายากในอีกฟากหนึ่งของโลก ล้มตายลงไปเป็นจำนวนมาก

รายงานจากผู้สื่อข่าว Joe De Capua / เรียบเรียงโดย ทรงพจน์ สุภาผล