ส.ส. สหรัฐฯ โหวตผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวก่อนเส้นตาย 'ชัทดาวน์'

  • VOA

อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ (แฟ้มภาพ/Reuters)

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติในช่วงหัวค่ำวันศุกร์ ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลไม่ต้องปิดทำการชั่วคราว หลังเผชิญแรงกดดันฉับพลันจากว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

สมาชิกสภาล่างสหรัฐฯ มีมติ 366 ต่อ 34 เพื่ออนุมัติร่างกฎหมาย stopgap funding bill ฉบับใหม่ที่ไม่มีเงื่อนไขเกี่ยวกับขยายเพดานหนี้ประเทศของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

การลงมติผ่านร่างกฎหมายได้ในช่วงโค้งสุดท้ายนี้แสดงให้เห็นถึงการท้าทายความต้องการของทรัมป์ ด้วย ตามรายงานของรอยเตอร์

หลังจากนี้ วุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งพรรคเดโมแครตกุมเสียงข้างมากอยู่จะต้องลงมติผ่านร่างกฎหมายนี้ เพื่อส่งต่อให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามรับรอง ก่อนที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการก่อนเที่ยงคืนวันศุกร์ เพื่อทำให้รัฐบาลมีงบประมาณใช้จ่ายต่อไป

สมาชิกสภาคองเกรสพรรครีพับลิกัน เสนอร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเป็นครั้งที่สามในวันศุกร์ หลังจากว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กดดันไม่เอาร่างฉบับที่สภาพิจารณามาแต่เดิม และสภาโหวตไม่ผ่านร่างที่เสนอมาหลังจากนั้น

หากไม่สามารถอนุมัติงบได้ทันเที่ยงคืนวันศุกร์นี้ จะทำให้หน่วยงานรัฐบาลกลางไม่มีงบประมาณบริหารจัดการและต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า ชัทดาวน์

การชัทดาวน์จะทำให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางหลายล้านคนไม่ได้รับค่าตอบแทน และต้องปิด หรือลดกำลังคนในการทำหน้าที่ หนึ่งในรูปธรรมที่ประชาชนอาจสัมผัสได้ คือการรอคิวที่นานขึ้นในท่าอากาศยาน หรืออุทยานแห่งชาติที่ต้องปิดชั่วคราว

ก่อนที่จะมีการโหวตรอบที่สามนี้ สภาคองเกรสเคยมีร่างฉบับที่ผ่านการเจรจาตกลงกับพรรคเดโมแครตที่ครองทำเนียบขาวและวุฒิสภามาแล้ว แต่ต้องพับแผนกันไปในวันพุธ หลังว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ และอิลอน มัสก์ อภิมหาเศรษฐีที่ผันตัวมาเป็นที่ปรึกษา วิจารณ์ร่างฯ ดังกล่าวบนโลกออนไลน์

เหตุการณ์ดังกล่าวนำมาซึ่งร่างฯ ฉบับที่สอง ที่ขยายเพดานการกู้ยืมของประเทศตามคำเรียกร้องของทรัมป์ แต่สภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่รับรองเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยมีสมาชิกพรรครีพับลิกัน 38 คน ลงมติไม่เห็นด้วย

เควิน โคซาร์ นักวิชาการจากสถาบัน American Enterprise Institute ระบุกับวีโอเอว่า ทรัมป์ผู้ยังไม่ขึ้นสู่ตำแหน่ง เข้ามาเขย่าการพิจารณาของสภาในจังหวะและเวลาที่ได้เปรียบ

โคซาร์กล่าวว่า “ถ้าคองเกรสจัดการตอนนี้ เขา (ทรัมป์) ก็ไม่ต้องต่อรองเรื่องนี้ภายหลัง หรือรับแรงกระแทกจากประชาชนจากการขึ้นเพดานหนี้ อีกด้านหนึ่ง ข้อเรียกร้องนี้มาในช่วงท้าย ๆ ที่คองเกรสพยายามปิดดีลก่อนวันหยุดคริสต์มาส และการเพิ่มเพดานหนี้ก็ถือเป็นการลงมติที่ยากมาก”

ฝ่ายเดโมแครตวิจารณ์ ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า ยอมจำนนกับแรงกดดันจากมัสก์ที่เป็นเศรษฐีที่ไม่ได้รับเลือกตั้ง ส่วนรีพับลิกันค้านว่าจะไม่รับรองร่างฯ ที่จะเพิ่มรายจ่ายภาครัฐ ที่จะเพิ่มหนี้ประเทศอีกหลายล้านล้านดอลลาร์เช่นกัน

ในค่ำคืนวันพฤหัสบดี ทรัมป์โพสต์บนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของตัวเองว่า คองเกรสต้องยกเลิก หรือขยาย “เพดานหนี้ที่เหลวไหล” ไปถึงปี 2029 ไม่เช่นนั้นก็ไม่ควรมีข้อตกลงใด ๆ

การหารือเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯ เป็นหัวข้อที่ส่งผลสะเทือนถึงตลาดการเงิน เพราะหากสหรัฐฯ ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ก็จะส่งแรงกระเพื่อมด้านความน่าเชื่อถือไปทั่วโลก โดยเพดานหนี้ที่มีในปัจจุบันได้รับการระงับเอาไว้จนถึงวันที่ 1 มกราคมที่จะถึงนี้ และสมาชิกสภานิติบัญญัติก็ไม่น่าจะหยิบยกเรื่องนี้มาหารือกันก่อนฤดูใบไม้ผลิจะมาถึง

  • ที่มา: รอยเตอร์, วีโอเอ