พลโทอับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของซูดาน ประกาศสภาวะฉุกเฉินในวันจันทร์ และสั่งยุบสภาที่ทำหน้าที่บริหารประเทศในช่วงสองปีที่ผ่านมา
พลโทบูร์ฮาน แถลงข่าวในวันจันทร์หลังจากที่กองทัพซูดานได้ควบคุมตัวนายกรัฐมนตรี อับดัลลา แฮมดก และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่น ๆ ของสภาการปกครองของซูดานเอาไว้ โดยระบุว่า การยุบสภาและยึดอำนาจมาจากรัฐบาลครั้งนี้เป็นไปเพื่อยุติความวุ่นวายทางการเมืองที่คุกคามความมั่นคงของประเทศ พร้อมยืนยันว่าจะมีการ "แต่งตั้งคณะรัฐบาลชุดใหม่เร็ว ๆ นี้"
กระทรวงข้อมูลข่าวสารซูดาน เผยแพร่แถลงการณ์ออนไลน์ โดยระบุว่า นายกฯ แฮมดกถูกจับกุมเพราะปฏิเสธที่จะยอมรับการยึดอำนาจ
ขณะเดียวกัน เกิดการประท้วงในกรุงคาร์ทูมในวันจันทร์หลังจากมีรายงานข่าวว่านายกฯ ถูกควบคุมตัว โดยแหล่งข่าวในกรุงคาร์ทูมกล่าวกับวีโอเอว่า ประชาชนหลายพันคนซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว ต่างออกมาเดินขบวนตามท้องถนนในกลางเมืองหลวง และมีเสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการจุดไฟเผายางรถยนต์ในหลายจุดด้วย
แหล่งข่าวดังกล่าวเปิดเผยว่า มีการปิดช่องทางการสื่อสารโทรคมนาคมต่าง ๆ ในกรุงคาร์ทูม รวมถึงอินเทอร์เน็ตและสถานีวิทยุ โดยมีเพียงสถานีโทรทัศน์ของทางการเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ออกอากาศและเปิดเพลงปลุกใจรักชาติ
องค์กร Sudan Doctors Committee รายงานว่า มีประชาชนอย่างน้อยสองคนเสียชีวิตหลังจากที่สมาชิกกองกำลังความมั่นคงของซูดานยิงปืนใส่ผู้ประท้วง
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี อับดัลลา แฮมดก เป็นนักการทูตและนักเศรษฐศาสตร์ผู้เคยทำงานให้กับสหประชาชาติ เขาได้รับแต่งตั้งเป็นผู้นำรัฐบาลชั่วคราวเมื่อเดือนสิงหาคม ปี ค.ศ. 2019 ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบอบประชาธิปไตย หลังจากที่อดีตผู้นำเผด็จการ โอมาร์ อัล-บะเชียร์ ถูกขับออกจากตำแหน่งสืบเนื่องจากการประท้วงครั้งใหญ่ของประชาชน
ซูดานกำลังจะจัดเลือกตั้งในช่วงปลายปีหน้า และภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน นายกฯ แฮมดกจะไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้
อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ผ่านมา นายกฯ แฮมดก ถูกต่อต้านอย่างหนักจากบางกลุ่มในกองทัพ โดยเฉพาะกลุ่มทหารที่ยังคงภักดีกับอดีตผู้นำอัล-บะเชียร์ ซึ่งนำรถถังออกมาปิดกั้นสะพานแห่งหนึ่งเมื่อปลายเดือนที่แล้วเพื่อพยายามยึดอำนาจแต่ไม่สำเร็จ นำไปสู่การจับกุมทหารระดับสูงหลายสิบคน
ท่าทีของสหรัฐฯ และสหภาพแอฟริกา
สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงคาร์ทูม กล่าวในวันจันทร์ว่า เป็นกังวลอย่างยิ่งต่อรายงานที่ว่า กองทัพซูดานได้ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน พร้อมประณามการกระทำดังกล่าวว่าเป็นการบ่อนทำลายกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยในซูดาน
สถานทูตอเมริกันยังได้ขอให้ทุคนที่กำลังขัดขวางกระบวนการประชาธิปไตยของซูดานจงหยุดการกระทำนั้น และคืนอำนาจให้แก่รัฐบาลพลเรือนได้บริหารประเทศต่อไปเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของการปฏิวัติเมื่อปี ค.ศ. 2019
ส่วนทางสหภาพแอฟริกามีแถลงการณ์ขอให้มีการปล่อยตัวผู้นำทางการเมืองทุกคนที่ถูกจับกุมไว้ และจัดการเจรจาระหว่างผู้นำพลเรือนกับผู้นำทหาร
ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน นายเจฟฟรีย์ เฟลท์แมน ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ ประจำภูมิภาค ฮอร์น ออฟ แอฟริกา เพิ่มกลับจากการหารือกับผู้นำซูดานเป็นเวลาสองวัน เพื่อเน้นย้ำการสนับสนุนของสหรัฐฯ ที่มีต่อกระบวนการประชาธิปไตยในซูดาน และได้รับการยืนยันจากทางกองทัพซูดานว่าจะยึดมั่นในกระบวนการดังกล่าว