ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวในวันอังคารว่า สถานการณ์ใน 4 เขตปกครองของยูเครนที่รัสเซียพยายามควบรวมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียนั้น "ยากลำบากอย่างที่สุด"
ปธน.ปูติน กล่าวต่อสมาชิกหน่วยงานด้านความมั่นคงในวันอังคารว่า ประชาชนในเขตปกครองดอแนตสก์และลูฮันสก์ทางภาคตะวันออกของยูเครน รวมทั้งเขตปกครองเคอร์ซอนและซาปอริซห์เชียทางภาคใต้ ซึ่งถือเป็นพลเมืองรัสเซียนั้น ต้องพึ่งพาการปกป้องจากรัสเซีย
ปูตินอ้างการควบรวมทั้ง 4 เขตปกครองดังกล่าวเมื่อเดือนกันยายน แต่ถูกปฏิเสธจากประชาคมโลก และรัสเซียยังคงไม่สามารถครอบครองดินแดนทั้ง 4 แห่งนั้นอย่างเบ็ดเสร็จได้เลยจนถึงตอนนี้
ในวันอังคาร ปูตินขอให้สำนักงานความมั่นคงสูงสุดของรัสเซีย หรือ FSB เพิ่มการตรวจตราภายในประเทศและตามพรมแดนติดกับยูเครน เพื่อรับมือภัยคุกคามทั้งจากศัตรูภายนอกและผู้แปรพักตร์ในประเทศ
คำกล่าวของผู้นำรัสเซียมีขึ้นหลังจากที่เขาเพิ่งกลับจากการเยือนกรุงมินสก์ของเบลารุส และได้กล่าวยกย่องความร่วมมือของสองประเทศ ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลในยูเครนว่า รัสเซียอาจกำลังวางแผนร่วมมือกับเบลารุสเพื่อส่งทหารเข้าไปในยูเครนรอบใหม่
เซอร์ฮีย์ นาเยฟ ผู้บัญชาการเหล่าทัพร่วมของยูเครน เชื่อว่า ปูตินได้หารือกับผู้นำเบลารุสเรื่องการเพิ่มกำลังรุกรานยูเครน และการส่งทหารเบลารุสไปประจำตามแนวพรมแดนเพื่อเข้าร่วมปฏิบัติการในยูเครนด้วย โดยเฉพาะทางภาคพื้นดิน แม้ว่าที่ผ่านมา ประธานาธิบดีเบลารุส อเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก เน้นย้ำว่า ตนไม่มีแผนส่งทหารเบลารุสเข้าร่วมในสงครามที่ยูเครนก็ตาม
ทางด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เน็ด ไพรซ์ กล่าวว่า สหรัฐฯ จะจับตามองต่อไปว่า เบลารุสให้การช่วยเหลือรัสเซียเพิ่มเติมแก่รัสเซียหรือไม่ และจะตอบโต้อย่างเหมาะสมหากเกิดขึ้นจริง
ทั้งนี้ รัฐบาลรัสเซียบอกปัดคำกล่าวหาว่าปูตินอาจต้องการกดดันให้เบลารุสมีบทบาทมากขึ้นในสงครามยูเครน โดยสื่อรัสเซีย RIA Novosti รายงานอ้างคำพูดของโฆษกรัฐบาลเครมลิน ดมิทรี เพสคอฟ ว่า ข้อสันนิษฐานดังกล่าวเป็นเรื่องที่ "เลื่อนลอย" และ "โง่เขลา"
- ข้อมูลบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์